กรุงเทพฯ – วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ณ อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ตำรวจทางหลวงภายใต้การนำของ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ รอง ผบก.บก.ทล. และคณะ ได้แถลงผลปฏิบัติการ “Fast Fraud Furious ล่า Young Mastermind” ซึ่งเป็นการทลายขบวนการหลอกลวงบริษัทเช่ารถยนต์ ก่อนจะนำรถไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน.

ปฏิบัติการครั้งนี้ นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ประกอบด้วย นายภัทรจารินทร์ หรือแจ็ค อายุ 27 ปี ซึ่งถูกระบุว่าเป็นหัวหน้าขบวนการ, น.ส.มนัญชยา อายุ 36 ปี ทำหน้าที่ติดต่อทำสัญญาเช่ารถ, น.ส.พรพรรณ อายุ 37 ปี ผู้รับมอบอำนาจในการทำสัญญาเช่ารถ และ น.ส.นวรัตน์ อายุ 42 ปี ผู้ทำหน้าที่โอนจ่ายเงินค่าเช่ารถ ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย”.

พล.ต.ต.คงกฤช เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของคดีนี้มาจากเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทรถเช่าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ได้เข้ามาร้องเรียนว่าถูกนายภัทรจารินทร์ ติดต่อเข้ามาขอเช่ารถ โดยอ้างว่าเป็นพนักงานของบริษัทที่ทำธุรกิจชำแหละเนื้อสัตว์ปีก และต้องการเช่ารถบรรทุกขนาดเล็กจำนวน 6 คัน เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการพาตัวแทนบริษัทรถเช่าไปดูที่ตั้งของบริษัทที่ย่านลำผักชี ก่อนจะตกลงทำสัญญาระยะยาว 5 ปี ในราคาเดือนละ 19,000 บาทต่อคัน โดยมี น.ส.พรพรรณ เป็นผู้รับมอบอำนาจมาทำสัญญาและจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน.

หลังจากส่งมอบรถทั้ง 6 คันแล้ว บริษัทรถเช่าได้พบความผิดปกติ เนื่องจากระบบนำทาง GPS ของรถถูกถอดออก เมื่อพยายามติดต่อบริษัทชำแหละเนื้อสัตว์ดังกล่าว ก็ถูกบ่ายเบี่ยงและในที่สุดก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ทำให้เชื่อว่าถูกหลอกลวงและโจรกรรมรถไป.

ด้าน พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ผกก.2 บก.ทล.) กล่าวเสริมว่า จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาดำเนินการเป็นขบวนการ โดยมีการตั้งบริษัทชำแหละเนื้อสัตว์ขึ้นมาเพื่อบังหน้าในการหลอกเช่ารถ นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่า กลุ่มผู้ต้องหายังอยู่ระหว่างการติดต่อเช่ารถกับบริษัทอื่นๆ ในกรุงเทพฯ อีก 4 แห่ง รวม 24 คัน ซึ่งได้รับรถไปแล้ว 14 คัน และยังมีอีก 10 คันที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบ เจ้าหน้าที่จึงเร่งประสานงานกับผู้ประกอบการเพื่อยับยั้งการส่งมอบรถที่เหลือไว้ได้ทัน.

พ.ต.อ.ภคพล ยังได้ระบุถึงบทบาทของผู้ต้องหาแต่ละรายว่า นายภัทรจารินทร์ ทำหน้าที่เป็น Mastermind วางแผนและติดต่อหลอกเช่ารถ, น.ส.มนัญชยา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทปลอม ทำหน้าที่สร้างความน่าเชื่อถือและรับมอบรถ, น.ส.พรพรรณ เป็นผู้รับมอบอำนาจ ทำนิติกรรมสัญญาและรับมอบรถ และ น.ส.นวรัตน์ ทำหน้าที่จ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้าผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางการเงิน.

แนวทางการสืบสวนเชื่อว่า ขบวนการนี้ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี และได้รถไปแล้วมากกว่า 50 คัน แม้ผู้ต้องหาทั้งหมดจะให้การปฏิเสธในชั้นจับกุม แต่เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การออกหมายจับ.

พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 (สวญ.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.) ได้ตรวจสอบประวัติของนายภัทรจารินทร์ หัวหน้าขบวนการ พบว่าเดิมเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงในการขายของออนไลน์ ชอบถ่ายภาพกับบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อสร้างโปรไฟล์ และเคยเป็นถึงอดีตแชมป์ประเทศไทยด้านโครงงานธุรกิจของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ก่อนจะผันตัวมาชักชวนคนลงทุนและก่อตั้งขบวนการหลอกลวงเช่ารถร่วมกับผู้ต้องหารายอื่นที่คาดว่าน่าจะรู้จักกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์.