นครศรีธรรมราช – ตำรวจ สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ร่วมกับฝ่ายสืบสวน ตามรวบตัวชายวัย 30 ปี หลังก่อเหตุสุดแสบ ตระเวนลักทรัพย์สินของทางราชการ คือ เสาราวกันอันตรายและป้ายเตือนทางโค้งริมถนนหลวง ค้นบ้านพักเจอของกลางจำนวนมากที่เตรียมนำไปขาย

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ภูวศิษฏิ์ วังแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภกร พรหมทอง รองผู้กำกับการสืบสวน, พ.ต.ท.ธิคำพร ห่อหุ้ม รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม และ พ.ต.ท.ธีรพงศ์ โภชนาธาร รองผู้กำกับการ (สอบสวน) นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เข้าทำการจับกุมตัว นายจำนงค์ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ของทางราชการ

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 10 ตำบลหลักช้าง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้องกับคดีได้จำนวนมาก ประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผธ 6730 นครศรีธรรมราช ซึ่งคาดว่าเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ พร้อมด้วย เสาราวกันอันตราย และป้ายเตือนทางโค้ง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของกรมทางหลวง

คดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ ว่าที่ร้อยตรีวรินทร์ ฟุ้งเฟื่อง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 3 (เวียงสระ) ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงบ้านส้องในพื้นที่ ว่ามีเหตุการณ์โจรกรรมอุปกรณ์ความปลอดภัยบนทางหลวง โดยคนร้ายได้ทำการขโมยเสาราวกันอันตรายและป้ายเตือนทางโค้ง บนทางหลวงหมายเลข 4015 ตอนควบคุม 0300 ช่วง ห้วยปริก – บ้านส้อง ระหว่างกิโลเมตรที่ 83+450 ถึงกิโลเมตรที่ 83+625 ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลห้วยปริก อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าคนร้ายได้ถอดเอาป้ายเตือนทางโค้งไปจำนวน 6 ชุด และเสาราวกันอันตรายอีกจำนวน 27 ต้น ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ระมัดระวังอันตรายบนท้องถนน การสูญหายไปส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยในการใช้เส้นทางของประชาชน

หลังได้รับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรฉวาง ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ระดมกำลังฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เพื่อทำการสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบพยานหลักฐาน และรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ จนกระทั่งได้เบาะแสสำคัญที่นำไปสู่การระบุตัวผู้ต้องหาและที่พักอาศัย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายจับและกำลังส่วนหนึ่ง เข้าทำการปิดล้อมและตรวจค้นบ้านพักตามที่ได้รับรายงาน และก็สามารถจับกุมตัว นายจำนงค์ ผู้ต้องหาไว้ได้ในที่สุด พร้อมกับตรวจพบของกลางที่ถูกโจรกรรมมาเก็บไว้เป็นจำนวนมากภายในบริเวณบ้านพักดังกล่าว

ในเบื้องต้น นายจำนงค์ ถูกแจ้งข้อหา "ลักทรัพย์ของทางราชการ" ซึ่งถือเป็นความผิดทางอาญาที่มีบทลงโทษ และทรัพย์สินที่ถูกลักไปนั้นเป็นของส่วนรวมที่ใช้เพื่อความปลอดภัยสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉวาง เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป และจะทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่ามีผู้ร่วมขบวนการ หรือได้นำทรัพย์สินที่ลักมาไปจำหน่ายที่ใดหรือไม่

เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนใจถึงการลักทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำลายทรัพย์สินส่วนรวมแล้ว ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนอีกด้วย.