นายกฯ สั่งเข้มป่วนใต้! ตรึงกำลังดูแลประชาชน ย้ำไม่แบ่งแยกศาสนา เผย ‘ทักษิณ’ คุย ‘อันวาร์’ หาทางออก
ทำเนียบรัฐบาล – นายกรัฐมนตรี สั่งการเข้มข้นฝ่ายความมั่นคงให้ตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเต็มที่ ควบคู่กับการทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย ย้ำรัฐบาลไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบ พร้อมขอให้สังคมงดเว้นการแบ่งแยกประชาชนตามเชื้อชาติและศาสนา เผย นายทักษิณ ชินวัตร ได้มีการหารือกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน
เมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 6 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ตามที่ระบุในแหล่งข่าว) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญและไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหารและตำรวจ เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งได้มีการพูดคุยหารือกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อประสานการทำงานและพิจารณาให้การสนับสนุนแก่หน่วยงานในพื้นที่อย่างเต็มที่
“สิ่งที่ดิฉันอยากเน้นย้ำและขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน รวมถึงประชาชนทุกท่าน คือ ไม่อยากให้มีการแบ่งแยกผู้คนตามเรื่องของศาสนาหรือเชื้อชาติ เพราะทุกคนคือคนไทย มีครอบครัว และทุกชีวิตมีความหมาย เราไม่ควรนำเรื่องเหล่านี้มาเป็นประเด็นในการแบ่งแยก และไม่ควรมีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นค่ะ” นายกรัฐมนตรีกล่าวและย้ำว่า รัฐบาลยืนยันจุดยืนที่ไม่สนับสนุนความรุนแรง และให้คุณค่ากับทุกชีวิตที่สูญเสียไป จึงอยากให้สังคมโดยรวมช่วยกันสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้ว่า เราไม่มีการแบ่งแยกประชาชนตามเชื้อชาติและศาสนา
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการวิเคราะห์สาเหตุของเหตุการณ์ความรุนแรงที่กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงได้มีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุในหลายแง่มุม ซึ่งอาจมาจากความขัดแย้งที่หลากหลาย แต่สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการคือการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยควบคู่ไปกับการทำงานด้านการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อสงสัย รวมถึงความต้องการความเข้าใจเพิ่มเติม เป็นเรื่องของการสื่อสารที่ต้องทำควบคู่กันไป ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เท่านั้น
ต่อข้อถามที่ว่า นอกเหนือจากช่องทางการเจรจาอย่างเป็นทางการของรัฐบาล จะมีการใช้ช่องทางของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน (ตามที่ระบุในแหล่งข่าว) ในการพูดคุยหาทางออกด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้มีการติดต่อพูดคุยกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่าเป็นประธานอาเซียน (ตามที่ระบุในแหล่งข่าว) เพื่อหารือถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายทักษิณมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและพร้อมให้การสนับสนุนการพูดคุยสันติสุขผ่านช่องทางต่างๆ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมในขณะนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมสำหรับการพูดคุยเพื่อหาทางออก
เมื่อถามถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง จนถูกนำไปเปรียบเทียบกับสถานการณ์เมื่อ 20 ปีก่อน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ขณะนี้ได้มีการส่งกำลังทหารลงพื้นที่ไปตั้งจุดตรวจและดูแลความปลอดภัยแล้ว รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมด้านสรรพกำลังอย่างเต็มที่ในเชิงรุก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด ควบคู่ไปกับการทำงานด้านการทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งต้องทำงานทั้งสองส่วนประกอบกัน
ต่อข้อคำถามเกี่ยวกับผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนบางส่วนที่ยังไม่เชื่อมั่นในการแก้ปัญหาความไม่สงบของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการสร้างความเข้าใจและการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่
“เมื่อสถานการณ์ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ เราก็ต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปอย่างเต็มที่ และเน้นย้ำโฟกัสในเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญค่ะ” นายกรัฐมนตรี กล่าวและเพิ่มเติมว่า ได้มีการหารือเรื่องนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้า โดยพรรคร่วมรัฐบาลที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ก็ได้มีการรายงานสถานการณ์ให้ทราบ รัฐบาลติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด ไม่ได้ปล่อยปละละเลยอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่าทางการไทยมีข้อเรียกร้องไปยังกลุ่ม BRN โดยตรงเกี่ยวกับการเจรจาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยได้เป็นผู้รับเรื่องนี้ไปดำเนินการติดต่อกับผู้ที่จะเข้ามาพูดคุยแล้ว
สุดท้าย เมื่อถูกถามถึงแถลงการณ์ของกลุ่ม BRN ที่ประณามความรุนแรงและระบุว่าไม่ได้โจมตีพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้ทางการไทยหาตัวผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง นายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นว่า ในส่วนของการหาตัวผู้กระทำความผิดนั้น รัฐบาลดำเนินการอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ได้สั่งการไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างชัดเจนว่า ผู้ก่อเหตุจะต้องถูกดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่รู้สึกปลอดภัย
“ถ้าเราไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เลย ประชาชนธรรมดาที่อยู่ในพื้นที่ก็จะใช้ชีวิตอย่างลำบากค่ะ เรื่องนี้รัฐบาลไม่ปล่อยปละละเลยแน่นอน และได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปอย่างละเอียดแล้วว่าต้องดำเนินการในส่วนใดบ้าง” นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำ