นายกฯ แพทองธาร ขันน็อตกลาง ครม. สั่งเร่งสอบปมตึก สตง. ถล่ม ไม่เว้นผู้เกี่ยวข้อง พร้อมปรับเกณฑ์เยียวยาผู้เสียหายแผ่นดินไหว

ทำเนียบรัฐบาล, 22 เมษายน 2568 – จากกรณีเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม และผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการเน้นย้ำและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการในสองประเด็นหลักอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม. ว่า นายกรัฐมนตรีมีความกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าของการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุและข้อเท็จจริงกรณีตึก สตง. ถล่ม ซึ่งพบว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากบางหน่วยงาน จึงได้มีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม. ดังนี้

  • ข้อ 1: ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการส่งมอบเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้การสืบสวนเป็นไปอย่างรวดเร็วและสามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้
  • ข้อ 2: ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยตรง ให้เร่งส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด รวมถึงรายงานผลการตรวจสอบของคณะกรรมการ สตง. ที่พบว่าผู้รับจ้างมีการผิดสัญญา แต่ไม่มีการดำเนินการยกเลิกสัญญาตามที่ควรจะเป็นตั้งแต่เดือนมกราคม 2568
  • ข้อ 3: กรมอุตุนิยมวิทยาและกรมทรัพยากรธรณี จะต้องเร่งส่งรายงานผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยด่วน เพื่อนำมาพิจารณาประกอบการสืบสวน
  • ข้อ 4: กรมบัญชีกลาง ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างและคุณภาพวัสดุก่อสร้าง ต้องเข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายจัดซื้อจัดจ้าง และอำนาจในการบอกเลิกสัญญากับบริษัทที่กระทำผิดระเบียบ
  • ข้อ 5: กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ร่วมในการตรวจรับการออกแบบการก่อสร้างและการตรวจรับงานอาคาร สตง. จะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจรับอาคาร ซึ่งควรแยกออกจากกระบวนการสืบสวนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส
  • ข้อ 6: กระทรวงอุตสาหกรรม ต้องทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในการดำเนินการอย่างเด็ดขาดในประเด็นเรื่องมาตรฐานของเหล็กและคุณภาพของปูนที่อาจไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงการตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย และการฮั้วประมูลที่อาจเกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิดในกรณีนี้

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นอกจากประเด็นตึก สตง. แล้ว นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการในเรื่องมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว หลังมีข้อร้องเรียนว่าหลักเกณฑ์การเยียวยาตามระเบียบของกรมบัญชีกลางยังไม่สอดคล้องกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง

นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมบัญชีกลาง, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, กรมโยธาธิการฯ และกรุงเทพมหานคร เร่งหารือและหาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขระเบียบหรือหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาให้มีความยืดหยุ่นและสามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ตามสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที โดยเน้นย้ำว่าจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับเงินประกันภัยที่อาคารเหล่านั้นได้รับอยู่แล้ว

การสั่งการครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีที่จะคลี่คลายปมปัญหาสำคัญ ทั้งในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายและมาตรฐานการก่อสร้าง รวมถึงการดูแลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติให้ได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *