นายกฯ เปิด ‘เดือนแห่งสุขภาพใจ’ ชูครอบครัวฐานราก ตั้งเป้าฮีลใจคนไทย 1 ล้านคน ขยายศูนย์ฯ 370 แห่ง
นายกฯ เปิด ‘เดือนแห่งสุขภาพใจ’ ชูครอบครัวฐานราก ตั้งเป้าฮีลใจคนไทย 1 ล้านคน ขยายศูนย์ฯ 370 แห่ง
ทำเนียบรัฐบาล – วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.50 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน เดือนแห่งสุขภาพใจ “Mind Month” ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่ายสำคัญ อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหาร และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
ภายในงาน นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการ “สุขภาพใจเป็นเรื่องของทุกคน” และร่วมวงเสวนาในหัวข้อ “สุขภาพใจ เริ่มต้นได้ที่ครอบครัว” กับตัวแทนครอบครัวหลากหลายอาชีพ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของสถาบันครอบครัวในการดูแลและส่งเสริมสุขภาพจิตของสมาชิก
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวเปิดเผยถึงสถานการณ์สุขภาพจิตของคนไทยในปัจจุบันว่า เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยพบว่ามีประชาชนกว่า 10 ล้านคน ที่กำลังเผชิญปัญหาด้านสุขภาพจิต และในจำนวนนี้กว่า 2 ล้านคน ได้เข้ารับการรักษาในระบบบริการสาธารณสุขแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล ภาวะเครียดสะสมรุนแรง และจิตเภท เพื่อรับมือกับปัญหานี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงได้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ขับเคลื่อน 6 มาตรการสำคัญในปีนี้ ได้แก่
- ส่งเสริมพัฒนาการและความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กปฐมวัย: ผ่านโปรแกรมกิจกรรมกลุ่มที่เชื่อมโยงระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง และเด็ก
- พัฒนาระบบ HERO แพลตฟอร์มสุขภาพจิตในโรงเรียน: ช่วยให้คุณครูสามารถประเมินสุขภาพจิตเด็กในเบื้องต้น และให้การช่วยเหลือที่เหมาะสมได้รวดเร็วขึ้น
- ส่งเสริมการดำเนินการด้วยระบบ Holistic Health Advisor: จัดทำหลักสูตรและแนวทางดูแลสุขภาพจิตสำหรับวัยทำงาน
- จัดตั้งศูนย์ให้การปรึกษาสุขภาพจิต: รองรับการดูแลผู้ต้องการความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตทั้งในรูปแบบ On-Site (พบปะ) และ Online (ออนไลน์)
- พัฒนาระบบ ต่อเติมใจ แพลตฟอร์ม: เครื่องมือช่วยในการฝึกจิตบำบัดด้วยตนเอง
- เปิดให้บริการแพลตฟอร์ม MentalHealth.com: เป็นช่องทางหลักในการเพิ่มความรอบรู้ด้านสุขภาพจิตแก่ประชาชน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวเน้นย้ำในพิธีเปิดว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ และเห็นว่าสุขภาพจิต สุขภาพใจเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด ซึ่งมักถูกมองข้ามไป ทั้งๆ ที่หากสุขภาพใจไม่แข็งแรง ก็ยากที่จะดำเนินชีวิตหรือทำเรื่องต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ นายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่างการดูแลลูกเล็กสองคนของตนเองว่า การให้เวลาและการตั้งใจรับฟังสิ่งที่ลูกต้องการสื่อสาร เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางใจให้กับพวกเขา ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำความเข้าใจปัญหาในใจของเด็ก ซึ่งหลักการนี้ก็ใช้ได้กับผู้ใหญ่เช่นกัน การมีคนรับฟังและเข้าใจเมื่อมีปัญหา จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ แม้จะยังไม่มีทางออกทันทีก็ตาม
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพกายและสุขภาพใจเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คุณหมอมักบอกว่าผู้ป่วยที่มีกำลังใจที่ดีมักจะฟื้นตัวได้เร็วกว่า ดังนั้น ทั้งสองอย่างจึงต้องมาคู่กัน น.ส.แพทองธาร ต้องการสร้างความเข้าใจใหม่ให้ประชาชนว่า การเข้าพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตไม่ใช่เรื่องผิดปกติ หรือน่าอาย ไม่ได้แปลว่าเราเป็นโรคเสมอไป แต่คือการตระหนักรู้และเริ่มต้นดูแลสุขภาพใจของตนเอง เหมือนกับการดูแลสุขภาพกาย การมีทางออกและที่พึ่งพิงทางใจจะช่วยให้ประชาชนสามารถเผชิญหน้ากับอุปสรรคได้อย่างเข้มแข็งมากขึ้น
น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวถึงการสนับสนุนการเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยพิบัติ เช่น กรณีน้ำท่วมทางภาคเหนือ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญไม่แพ้การดูแลด้านความเป็นอยู่พื้นฐาน เพราะการเปลี่ยนแปลงกะทันหันและการสูญเสียที่อยู่อาศัยส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเรื่องการดูแลเยียวยาจิตใจนี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้เด็กและเยาวชนเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ
สำหรับเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมในปีนี้ รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าหมายสำคัญคือการ จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาสุขภาพจิตให้ได้ 37 แห่งภายในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายสำคัญ และจะเร่งขยายให้ครบ 370 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2568 เพื่อให้ประชาชนกว่า 1 ล้านคน ได้เข้าถึงบริการคำปรึกษาและดูแลสุขภาพใจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นับเป็นความพยายามของภาครัฐที่จะทำให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่ดี และกระตุ้นให้สังคมไทยหันมาสนใจ พูดคุย และเข้ารับคำปรึกษาเรื่องสุขภาพจิตได้อย่างเปิดเผยมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี ทั้งของตนเองและคนรอบข้าง โดยเน้นย้ำอีกครั้งว่า จุดเริ่มต้นของจิตใจที่เข้มแข็งมาจากครอบครัว ที่เปิดใจรับฟังและเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์ให้แก่กันและกัน สิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่งยวด และขอให้เดือนแห่งสุขภาพใจนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สังคมไทยจะหันมาทำความเข้าใจและดูแลสุขภาพใจกันและกัน พร้อมเดินทางไปข้างหน้าร่วมกันอย่างมีความสุข
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้ร่วมเสวนาให้คำแนะนำแก่ตัวแทนครอบครัวที่มีผู้ติดตามจำนวนมากบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งอาจต้องเผชิญความคาดหวังจากสังคม โดยเน้นย้ำให้พ่อแม่เป็นฐานที่สำคัญและเป็นที่พึ่งทางใจให้ลูก พร้อมแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากมีผลกระทบทางจิตใจที่รุนแรง