นายกฯอิ๊งค์ นั่งหัวโต๊ะบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ รับเก็บภาษีต่ำเป้า ชี้พิษเศรษฐกิจโลกผันผวน จำเป็นต้อง ‘ปรับแผน’ ครั้งใหญ่

ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 19 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 โดยมีคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม, นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, รมต.ประจำสำนักนายกฯ, รมช.คลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุมว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีความผันผวนอย่างมาก จากการประกาศนโยบายจัดเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของประเทศมหาอำนาจ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อหลายประเทศทั่วโลก

“เมื่อดิฉันเดินทางไปต่างประเทศ ก็มีผลสะท้อนกลับจากหลายประเทศที่ต้องปรับตัวเพื่อหาทางออก และประเทศไทยเองก็ได้หารือร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งต่างก็มองเห็นปัญหาร่วมกัน ล่าสุดในการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของผู้นำอินโดนีเซีย ก็ได้มีการพูดคุยกันในประเด็นนี้ด้วย” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ประชาชนมีรายได้ในภาพรวมลดลง โดยเฉพาะภาคการส่งออกของไทยและภาคธุรกิจที่ต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศอย่างมาก

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียอมรับว่า การจัดเก็บภาษีรายได้ของรัฐบาลในปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ นายกรัฐมนตรีชี้ว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทบทวนแผนงานและโครงการต่างๆ ของรัฐบาลอย่างเร่งด่วน รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวให้มากขึ้น พร้อมกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การประชุมในวันนี้จึงมีขึ้นเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันคิดและเสนอแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขอให้ทุกคนร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการจัดเตรียมและพิจารณาโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน ที่สำคัญคือการดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนที่ให้ความร่วมมือในครั้งนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *