นายกฯ อิ๊งค์ เสียดาย ‘ทักษิณ’ อดเจอ ‘ทรัมป์’ ที่กาตาร์ ชี้เสียโอกาสดันดีลภาษีสหรัฐฯ ยันไทยส่งข้อเสนอแล้ว
ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีประเด็นสำคัญเรื่องความคืบหน้าการเจรจากำแพงภาษีที่สหรัฐอเมริกาเรียกเก็บ ซึ่งมีรายงานว่าประเทศจีนมีความก้าวหน้าไปมากจนอาจแซงหน้าไทยไปแล้ว
นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “โอ้โห ใช้คำว่าจีนแซงหน้าไม่ได้นะ” ก่อนกล่าวต่อว่า รัฐบาลมองว่ามีแนวทางในการคลี่คลายประเด็นนี้อยู่ และสถานการณ์ตอนนี้ก็ดูดีขึ้น ดังที่สะท้อนในตลาดหุ้นที่ยังคงเป็นบวก
นายกฯ ยืนยันว่า เรื่องการเจรจากับสหรัฐฯ นั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และได้รอเวลาที่เหมาะสมในการนัดหมายเพื่อเข้าพูดคุยอย่างเป็นทางการ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยได้ส่งข้อเสนออย่างเป็นทางการให้กับทางสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว
“มีตัวแทนจากหลายภาคส่วนคุยกันหลายระดับด้วย ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) หรือระดับของรัฐมนตรี พวกเรามีการคุยนอกรอบ แต่ข้อเสนอตรงส่งไปเรียบร้อยแล้ว” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เดินทางไปประเทศกาตาร์ตามที่มีรายงานข่าว เพื่อพบปะกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าเรื่องนี้จะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการพูดคุยประเด็นสำคัญหรือไม่
น.ส.แพทองธาร ตอบคำถามนี้ว่า “จะพูดอย่างไรดีล่ะ ถามว่าก็น่าเสียดายโอกาสที่ว่าเราจะสามารถคุยกับคอนเน็กชั่นที่ค่อนข้างใกล้และตรงกับทางประธานาธิบดีได้เลย หรือว่าเป็นตัวแทนประธานาธิบดีเอง มันก็ต้องเสียโอกาสอยู่แล้ว”
นายกฯ ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า การได้พูดคุยกับ “ตัวจริง” โดยตรงมักจะง่ายกว่าในทุกๆ วงการ และนี่ถือเป็นโอกาสที่สำคัญ เพราะทั้งนายทักษิณและนายโดนัลด์ ทรัมป์ เคยรู้จักและพูดคุยกันมาก่อนในอดีตสมัยที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยแรก ดังนั้น หากมีโอกาสได้พบเจอหรือสอบถามแนวความคิดกัน ก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างแน่นอน
“ฉะนั้น ถ้าได้ไปพบเจอหรือถามแนวความคิดมันต้องได้ประโยชน์อยู่แล้วกับประเทศ ก็เสียดาย” น.ส.แพทองธาร กล่าวสรุป
นอกจากนี้ นายกฯ ยังถูกสอบถามถึงประเด็นการยกเลิกมาตรการจำกัดการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่ไทยของสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อมโยงกับกรณีอุยกูร์ โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐฯ ได้เริ่มเปิดเจรจากับหลายเขตพิเศษ รวมถึงกัมพูชาแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏชื่อประเทศไทยในการเข้าเจรจารอบนี้
นายกฯ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่ามาตรการจำกัดวีซ่าดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้วหรือยัง แต่จะขอตรวจสอบอีกครั้ง “ไม่แน่ใจว่ายกเลิกหรือยัง เดี๋ยวจะถามให้ เพราะจริงๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว ปกติก็เข้าไปคุยกันได้หมด ไม่ได้ถูกปิดกั้นอะไร”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าวีซ่านั้นได้ถูกปลดล็อกให้ไทยแล้วหรือไม่ นายกฯ ยืนยันว่าไม่แน่ใจในรายละเอียดส่วนนี้ และจะสอบถามผู้เกี่ยวข้องให้ แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ถูกจำกัดวีซ่าดังกล่าว
สำหรับรายงานข่าวของบลูมเบิร์กที่ระบุว่าไทยยังไม่ปรากฏชื่อในรอบเจรจา นายกฯ รับทราบและชี้แจงว่า ไทยเพิ่งได้ส่งข้อเสนอการเจรจาให้กับทางสหรัฐฯ ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในช่วงก่อนวันหยุดยาวที่ผ่านมา ดังนั้นหลังจากนี้จึงอาจจะต้องมีการนัดหมายเกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป