นายกฯ ถกทีมนโยบายการค้าสหรัฐ วางยุทธศาสตร์ ‘รู้เขา-รู้เรา-เร็ว-แม่นยำ’ รับมือภาษีทรัมป์
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 เม.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 3/2568 โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นายนลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
จากนั้น น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า การวางยุทธศาสตร์รับมือมาตรการ Reciprocal Tariff และ liberation day ต้อง ‘รู้เขา-รู้เรา-เร็ว-แม่นยำ’ ซึ่งการประชุมวันนี้จะติดตามสถานการณ์ กำหนดก้าวต่อไปอย่างรอบคอบและแม่นยำ เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไทย
ตามที่ท่านทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศมาตรการ Reciprocal Tariff และ liberation day เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ถือเป็นการกำหนดกติกาการค้าโลกใหม่ สร้างผลสะเทือนต่อระบบเศรษฐกิจของโลก รวมทั้งผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกาเอง ตามรายงานข่าวที่ทุกท่านได้ติดตามรับทราบโดยทั่วกัน
รัฐบาลติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ระบุให้เป็นวาระสำคัญ โดยแต่งตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เมื่อ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ นายศุภวุฒิ สายเชื้อ เป็นที่ปรึกษา เพื่อศึกษารายละเอียด หารือและกำหนดแนวทางร่วมกับภาครัฐและเอกชนมาตลอด
โดยในที่ประชุม ครม. เมื่อเช้านี้ ได้มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง เป็นหัวหน้าคณะ เจรจากับทางอเมริกา พร้อมด้วย รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ร่วมคณะเจรจา มีการประสานนัดหมาย เพื่อพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น USTR และหน่วยงานอื่นๆของอเมริกา เพื่อนำเอาข้อเสนอของไทยไปพูดคุย
การประชุมวันนี้จะเป็นการติดตามสถานการณ์ เพื่อกำหนด ก้าวต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไทยอย่างรอบคอบและแม่นยำ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การวางยุทธศาสตร์และมาตรการต่างๆ คือต้อง “รู้เขา” และ “รู้เรา”
วันนี้ เราเห็นนอกจากรูปแบบการตอบโต้ และรับมือต่อนโยบายทรัมป์จากประเทศต่างๆ มีอะไรบ้าง และยังได้เห็นปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวตอบโต้ของประชาชนภายในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้อีกด้วย
น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ยุทธศาสตร์และกระบวนการทำงานของรัฐบาลต้องทั้ง ‘เร็ว และ แม่นยำ’ เร็ว ขอย้ำว่าเรามีการจัดตั้งคณะทำงานมาตั้งแต่เดือนม.ค. เราตั้งก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งเป็นทางการเมื่อ 20 ม.ค. และได้ประสานงานกับฝั่งสหรัฐอเมริกามาตลอด
แม่นยำ เรามีการเตรียมข้อมูลที่ครบและรอบด้าน มีการติดตามความเคลื่อนไหวจากทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบเพื่อประเมินและหาข้อสรุปในการเจรจาที่จะมีต่อไปจากนี้
ขอย้ำว่าการเจรจาไม่ใช่แค่ครั้งเดียวจบ แต่การเจรจาจะต้องใช้เวลา และมีการเจรจาในหลายระดับที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดผลกระทบเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ จึงต้องการเตรียมมาตรการรับมือและเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวเราจะต้องมองถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และการหาตลาดใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เศรษฐกิจไทยไปต่อได้อย่างเข้มแข็ง
ขอยืนยันว่า รัฐบาลคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง เราจะดำเนินการทุกอย่างโดยรอบคอบ เพื่อรักษาผลประโยชน์ และไม่ให้เสียเปรียบมากที่สุด