นายกฯ แจงเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ยังไม่เข้า ครม. รับเจอ ‘ภาษีสหรัฐฯ’ แทรก ทำแผนชะงัก ยัน ‘ดีลลับ’ สหรัฐฯ ทัน 90 วัน

ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 3 ผ่านการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน

นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ยังไม่ได้ถูกเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ในวันนี้ เนื่องจากขณะนี้กำลังรอรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน

นอกจากนี้ น.ส.แพทองธารยอมรับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาแทรก ทำให้แผนงานสำหรับโครงการนี้เกิดความชะงักลง โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง มาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งหน่วยงานอย่างสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ให้ความเห็นเข้ามา และรัฐบาลต้องรับฟังอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากความตั้งใจหลักของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น เมื่อมีปัจจัยภายนอกเข้ามารบกวน ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่ารูปแบบใดที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน

เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวเรื่องการยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 และระยะต่อไป เพื่อนำงบประมาณไปรับมือกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีย้ำชัดเจนว่า ขณะนี้ รัฐบาลยังไม่มีมติว่าจะยกเลิกโครงการ ยังคงอยู่ในช่วงของการรับฟังความคิดเห็นจากทุกหน่วยงานให้ครบถ้วนก่อน เพื่อประเมินว่าความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการนี้มากน้อยเพียงใดภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน

“เงินก้อนนี้จะทำอะไรได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนทั้งประเทศ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุด และต้องมองที่เป้าหมายจะทำเพื่ออะไร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉะนั้นสุดท้ายแล้ว เมื่อรับฟังความเห็นจากทุกหน่วยงานแล้ว มีผลออกไปอย่างไร เพราะฝ่ายบริหารไม่สามารถตัดสินใจ แล้วเดินหน้าต่อได้เลย ต้องดูเรื่องนี้ประกอบด้วย” น.ส.แพทองธารกล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าโครงการเฟส 3 และ 4 จะเดินหน้าต่อไปตามกำหนดเดิมหรือไม่ เนื่องจากยังรับฟังความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ได้ไม่ครบถ้วน และต้องพิจารณาปัจจัยแทรกอย่างมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ประกอบด้วย ต้องรอให้ได้ข้อมูลครบถ้วนก่อน จึงจะสามารถกำหนดทิศทางได้ว่าโครงการจะเลื่อนออกไปหรือไม่ แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากแผนเดิม เพียงแต่ต้องรอข้อมูลให้ครบก่อนแจ้งอย่างเป็นทางการ

ส่วนประเด็นที่ว่าหากโครงการไม่เดินหน้าต่อ จะกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ เพราะเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาไว้ น.ส.แพทองธารชี้แจงว่า ต้องปรับความเข้าใจ เนื่องจากมีปัจจัยที่เข้ามาแบบไม่ได้คาดฝัน ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่แค่ประเทศไทย จึงต้องรับฟังด้วยเหตุและผล และรัฐบาลจะมีคำอธิบายที่ชัดเจนหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

ในอีกประเด็นสำคัญ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการพูดคุยเจรจากับสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นทางการ หรือที่เรียกกันว่า “ดีลลับ” ว่าจะเห็นผลเมื่อใด น.ส.แพทองธารยืนยันว่า การดำเนินการในส่วนนี้มีกรอบและเวลาที่ชัดเจน คือภายใน 90 วัน และมั่นใจว่าจะไม่หลุดกรอบเวลาอย่างแน่นอน การเจรจายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบ และมีการอัปเดตข้อมูลกันตลอด

เมื่อถามถึงความกังวลว่าการเจรจาแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะจะถูกนำมาเป็นประเด็นโจมตีรัฐบาลภายหลังหรือไม่ นายกรัฐมนตรีอธิบายว่า เรื่องนี้มีส่วนที่สามารถเปิดเผยได้และส่วนที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ไม่ใช่ทั้งหมดเป็นความลับ การจะเปิดเผยหัวข้อต่างๆ จะต้องดูจังหวะเวลา (ไทม์มิ่ง) ที่เหมาะสมและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ ซึ่งไม่สามารถบอกทั้งหมดหรือปิดทั้งหมดได้

สำหรับปัจจัยที่ทำให้สหรัฐฯ ยังไม่ได้กำหนดวันเจรจากับไทยที่ชัดเจน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ล่าสุดได้พูดคุยกับทีมงานของสหรัฐฯ แล้ว และได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าจะครอบคลุมในสิ่งที่ประเทศไทยต้องการหลุดพ้นจากข้อกังวลของสหรัฐฯ ภายในกรอบ 90 วัน ทั้งนี้ สถานการณ์และความเคลื่อนไหวในสหรัฐฯ เองก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ เช่นกัน รัฐบาลไทยจึงต้องรอดูและปรับแผนการเจรจาอยู่ตลอดเวลา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *