พล.ร.9 จัดฝึกใหญ่ประจำปี 2568 ‘กรมทหารราบผสม’ เสริมแกร่งทัพบก ผนึกกำลังอากาศ พร้อมปกป้องอธิปไตยและประชาชน
กาญจนบุรี – กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ดำเนินการฝึกเป็นหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ ตามแผนการใช้กำลังของกองทัพบก ประจำปี 2568 โดยบูรณาการความร่วมมือกับกองทัพอากาศ เพื่อเพิ่มพูนขีดความสามารถของกำลังพลและแสดงความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติและดูแลความสงบสุขของพี่น้องประชาชน
การฝึกครั้งสำคัญนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 25 เมษายน 2568 โดย กรมทหารราบที่ 29 (ร.29) ภายใต้การบังคับบัญชาของ พันเอก พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 รับผิดชอบเป็นหน่วยหลักในการอำนวยการและควบคุมการฝึก การฝึกนี้เป็นการรวมกำลังจากหลากหลายส่วนงานภายในกองพลทหารราบที่ 9 และหน่วยสนับสนุน ประกอบด้วย กรมทหารราบที่ 29, กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 9 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 9, กองร้อยทหารม้าลาดตระเวน กองพันทหารม้าที่ 19, กองร้อยทหารช่างสนาม กองพันทหารช่างที่ 9, กองร้อยปืนใหญ่ค้นหาเป้าหมาย, กองร้อยข่าวกรองทางทหาร, กองร้อยปืนต่อสู้อากาศยานผสม, กองพันบินที่ 9 ศูนย์การบินทหารบก และ ส่วนแยก กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 9
เนื้อหาการฝึกมุ่งเน้นการปฏิบัติตามแผนการใช้กำลังของกองทัพบกในขั้นปฏิบัติการ โดยจำลองสถานการณ์การเข้าตีเพื่อเอาชนะกำลังข้าศึกที่รุกล้ำเส้นเขตแดน การฝึกนี้ครอบคลุมการปฏิบัติการรบแบบผสมเหล่าในระดับกรมทหารราบ ซึ่งรวมถึง การโจมตีทางอากาศโดยได้รับการสนับสนุนจากเครื่องบินขับไล่จากฝูงบินที่ 211 กองบิน 21 ของกองทัพอากาศ การยิงสนับสนุนจากปืนใหญ่ขนาด 105 มิลลิเมตร และหมวดปืนใหญ่ค้นหาเป้าหมาย ตลอดจนการสนับสนุนการเคลื่อนย้ายกำลังทางอากาศจากกองพันบินที่ 9 ศูนย์การบินทหารบก
นอกจากการฝึกภาคสนามและการใช้ยุทโธปกรณ์แล้ว การฝึกประจำปีครั้งนี้ยังให้ความสำคัญกับการฝึกกำลังพลในระดับฝ่ายอำนวยการ ทั้งในด้านการอำนวยการยุทธ และระบบการส่งกำลังบำรุงแบบผสมเหล่า ซึ่งเป็นการทดสอบและพัฒนากลไกการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการนำยุทโธปกรณ์และสิ่งประดิษฐ์ทางทหารที่หน่วยได้ทำการวิจัยและพัฒนาขึ้นเอง เช่น ระบบ Map Command มาประกอบการฝึก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสั่งการและควบคุมทางยุทธวิธี
การฝึกเป็นหน่วย กรมทหารราบผสม ประจำปี 2568 ของ พล.ร.9 นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติการทางทหารในสถานการณ์จริง แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทย ต่อสาธารณชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าหน่วยทหารมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติภารกิจสำคัญยิ่ง ในการปกป้องและรักษาดินแดนอันเป็นเอกราชของประเทศไทย รวมถึงการดูแลความมั่นคงและความสงบสุขให้กับพี่น้องประชาชนทุกคนในทุกมิติ.