ภูมิใจไทย ถอดบทเรียนเลือกตั้งซ่อมเมืองคอน ‘พิพัฒน์’ ยอมรับแพ้ แต่ชี้คะแนนพุ่ง เตรียมปรับทัพรับศึกใหญ่
นครพนม – เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 29 เมษายน 2568 ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคใต้ ได้กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 ที่ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรมเป็นฝ่ายชนะ ว่า ผลการเลือกตั้งเป็นเรื่องปกติของการเมือง และผู้ที่ลงพื้นที่อย่างหนักก็ย่อมมีโอกาสเป็นผู้ชนะ
นายพิพัฒน์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผู้สมัครของพรรคกล้าธรรมเป็นคนในพื้นที่อำเภอฉวาง ดังนั้น การที่ประชาชนในอำเภอฉวางให้ความไว้วางใจเลือกคนในพื้นที่เดียวกัน ถือเป็นเรื่องปกติ
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเหตุการณ์ที่คะแนนของพรรคภูมิใจไทยเคยนำอยู่ก่อน แต่ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรมสามารถทำคะแนนตีตื้นจนชนะได้ นายพิพัฒน์ ระบุว่า ตนไม่สามารถตอบได้ในรายละเอียด เพราะการตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับประชาชนในพื้นที่ และทางพรรคต้องยอมรับความเป็นจริงในผลที่ออกมา
ส่วนคำถามที่ว่าผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนแผนการทำงานของพรรคเพื่อเตรียมรับมือการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าอย่างไร นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ทางพรรคจำเป็นต้องปรับแผนการทำงานใหม่ทั้งหมด เนื่องจากบริบทของการเลือกตั้งใหญ่แตกต่างจากการเลือกตั้งซ่อมอย่างสิ้นเชิง และคาดว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ก็คงมีการปรับเปลี่ยนท่าทีเช่นกัน โดยเฉพาะพรรคการเมืองเก่าแก่ที่มีฐานเสียงเดิม และอาจมีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับผู้สมัครคนก่อนๆ
นายพิพัฒน์ ยืนยันว่า ทางพรรคไม่ได้มีความชะล่าใจ และได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่แล้ว สิ่งที่น่าสังเกตคือ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยได้รับคะแนน 23,000 คะแนน แต่ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 28,000 คะแนน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 5,000 คะแนน แสดงให้เห็นว่า สส. ในพื้นที่ยังคงได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในภาพรวมของเขต 8
อย่างไรก็ตาม นายพิพัฒน์ยอมรับว่า พรรคภูมิใจไทยมีคะแนนแพ้ในบางอำเภอ ได้แก่ อำเภอพิปูน และอำเภอฉวาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทางพรรคต้องกลับไปทำการบ้านเพิ่มเติมและทบทวนยุทธศาสตร์ใหม่
เมื่อถามถึงสาเหตุของความพ่ายแพ้ นายพิพัฒน์ ตอบสั้นๆ ว่า เกิดจากความนิยมของชาวบ้าน แต่ก็รู้สึกสบายใจที่คะแนนโดยรวมเพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฐานเสียงของพรรคยังคงมีความเหนียวแน่น และทางพรรคจะพยายามต่อไป
สำหรับประเด็นเรื่องการซื้อเสียงที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมากล่าวอ้างถึง นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการชี้แจงและดำเนินการในเรื่องนี้ ตนเองไม่สามารถให้ความเห็นเพิ่มเติมได้