“ซ่อมไม่คุ้ม!” อู่ประเมินรถกระบะลุงป้าชนบีเอ็ม ‘ลูกพีช’ ชี้โครงสร้างพังหนัก ค่าซ่อมเกือบครึ่งล้าน แนะซื้อใหม่ดีกว่า
ปทุมธานี – จากกรณีอุบัติเหตุรถกระบะของตายายถูกรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูขับเบียดชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุด กัน จอมพลัง พร้อมช่างผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่ประเมินความเสียหายรถกระบะ พบโครงสร้างหลักเสียหายหนัก ค่าซ่อมพุ่งสูงเกือบครึ่งล้าน แนะไม่คุ้ม ซื้อใหม่ดีกว่า
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 เมษายน 2568 ที่สถานีตำรวจภูธรลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้เดินทางมาพร้อมกับช่างจากอู่ซ่อมรถ เพื่อเข้าประเมินสภาพความเสียหายของรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บว 2775 ลำปาง ซึ่งเป็นรถของนายประจักษ์ ดวงใย อายุ 65 ปี และนางสมศรี ดวงใย อายุ 64 ปี ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุที่ถูกนายพีช หรือ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียนป้ายแดง ขับปาดเบียดและชนท้าย
นายต้น เจ้าของอู่วีสิบการาจ ผู้ทำการประเมิน ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับความเสียหายของรถกระบะคันดังกล่าวว่า ความเสียหายรุนแรงถึงขั้นต้องเปลี่ยนแชสซีรถ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแชสซี จะส่งผลให้ต้องเปลี่ยนเลขตัวถังด้วย ซึ่งอาจสร้างปัญหาหากต้องการขายต่อในอนาคต
นายต้น กล่าวว่า จากการประเมินราคาค่าซ่อมเบื้องต้น พบว่าเฉพาะค่าอะไหล่ก็สูงถึงประมาณ 290,000 บาทแล้ว และยังไม่รวมค่าแรง รวมถึงค่าซ่อมโครงสร้างหลักที่เป็นเหล็กของตัวรถ ซึ่งเมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว คาดว่าค่าซ่อมจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 – 500,000 บาท
ช่างผู้เชี่ยวชาญรายนี้ระบุเพิ่มเติมว่า การประเมินในครั้งนี้เป็นเพียงการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น ยังต้องมีการรื้อชิ้นส่วนต่างๆ และตรวจเช็กอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากเคสนี้มีความยากในการซ่อมมาก เพราะความเสียหายอยู่ที่โครงสร้างหลักของรถ โดยส่วนตัวแล้ว นายต้นไม่แนะนำให้ซ่อมรถคันนี้ แต่แนะนำให้ซื้อรถคันใหม่แทน
ด้าน พันตำรวจเอก ถิรเดช จันทร์ลาด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรลำลูกกา กล่าวว่า รถกระบะคันดังกล่าวเป็นรถของผู้เสียหาย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสภาพและเปรียบเทียบร่องรอยความเสียหายกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูซึ่งเป็นรถคู่กรณีแล้ว ก็สามารถส่งคืนให้กับเจ้าของรถได้เลยในขณะนี้ ส่วนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังต้องยึดไว้เป็นของกลางจนกว่าศาลจะมีคำสั่ง
ขณะที่ กัน จอมพลัง กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้เพื่อช่วยเหลือและหาทางออกให้กับครอบครัวผู้เสียหาย ซึ่งเป็นครอบครัวที่มีรถยนต์เพียงคันเดียว ตอนนี้รถสามารถนำออกไปซ่อมได้แล้ว แต่กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานกับประกันภัยของคู่กรณี เพื่อพิจารณาว่าจะสามารถซ่อมรถคันนี้ให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้หรือไม่ คุ้มค่ากับการซ่อมหรือไม่ หรือการซื้อรถคันใหม่จะคุ้มกว่ากัน
กัน จอมพลัง เผยต่อว่า จากการประเมินของอู่ซ่อมรถเบื้องต้นที่ 400,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคารถกระบะมือสองรุ่นเดียวกัน ที่มีราคาประมาณ 400,000 บาท ทำให้เกิดคำถามว่า ควรจะเลือกรถใหม่ที่ไม่เคยชนมาเลยจะดีกว่าหรือไม่ หรือจะเลือกรถคันที่ชนมาแล้วนำไปซ่อม ซึ่งทางญาติของผู้เสียหายเองก็มีความกังวลว่าจะนำเงินที่ไหนไปซื้อรถใหม่
ในส่วนของค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น หากไม่มีการเยียวยาหรือช่วยเหลือจากฝ่ายคู่กรณีหรือประกันภัย กัน จอมพลัง ระบุว่า ทางมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อเสนอความช่วยเหลือแล้ว โดยมีวงเงินสนับสนุนเบื้องต้นอยู่ที่ 300,000 กว่าบาท ซึ่งตนต้องการให้เรื่องนี้ยุติลงโดยที่ครอบครัวผู้เสียหายได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เน้นการแก้ปัญหาและช่วยเหลือเคสนี้ให้จบสิ้นสมบูรณ์