มา 4 ล้อ กลับ 2 ล้อ! รวบหนุ่มขับกระบะหรู ขโมยมอไซค์จอดเสียบคากุญแจ สารภาพไม่จนแค่ ‘ใจมันอยากได้’ ตรวจเจอฉี่ม่วง

บุรีรัมย์ – ตำรวจ สภ.หนองหงส์ ตามรวบหนุ่มวัย 36 ปี ขับรถกระบะ 4 ประตู ราคาแพง มาจอดทิ้งไว้ ก่อนลงมือขโมยรถจักรยานยนต์ชาวบ้านที่จอดเสียบคากุญแจหน้าร้านค้า ผู้ต้องหารับสารภาพไม่ได้ยากจน ครอบครัวซื้อรถให้ขับเงินสด แต่เห็นรถจอดไว้พร้อมกุญแจแล้วเกิดกิเลส ‘ใจมันอยากได้’ อ้างนำไปขายต่อแค่ 10,000 บาท ก่อนโดนรวบพร้อมคนรับซื้อชาวเมียนมา พบเคยมีประวัติจ้างวานขโมยมาก่อน ซ้ำตรวจปัสสาวะเจอฉี่ม่วง

วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 พ.ต.อ.อดิศักดิ์ จันทร์สอน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับรายงานเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ของประชาชนที่จอดไว้หน้าร้านขายของส่ง บริเวณตลาดอำเภอหนองหงส์ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สุวัฒน์ นามมงคล รองผู้กำกับการสืบสวน และ พ.ต.ท.ปัญญา วรรณสุทธิ์ สารวัตรสืบสวน ลงพื้นที่แกะรอยติดตามจับกุมคนร้ายอย่างเร่งด่วน

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบพฤติกรรมของคนร้ายที่น่าสงสัย เป็นชายที่เดินทางมาด้วยรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อฟอร์ดสีดำ เมื่อมาถึงบริเวณหน้าร้านค้าดังกล่าว ได้จอดรถกระบะทิ้งไว้ จากนั้นได้เดินตรงไปที่รถจักรยานยนต์ของเหยื่อที่จอดอยู่ ก่อนจะขึ้นไปขี่รถคันดังกล่าวออกไปอย่างใจเย็น ทิ้งรถกระบะของตนเองไว้ที่จุดเกิดเหตุ ราวกับว่ามาด้วย 4 ล้อ แต่เลือกกลับไป 2 ล้อ

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถกระบะคันที่คนร้ายทิ้งไว้ จนทราบข้อมูลว่า รถคันดังกล่าวเป็นของ นายเกรียงศักดิ์ หรือที่รู้จักในชื่อเล่นว่า ‘แม็ค’ อายุ 36 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านหมู่ 2 ตำบลหนองคู อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ประสานกำลังเข้าติดตามตัวนายเกรียงศักดิ์มาสอบสวนที่ สภ.หนองหงส์

ภายใต้การสอบสวน นายเกรียงศักดิ์ ให้การยอมรับสารภาพแต่โดยดีว่าเป็นบุคคลเดียวกับชายในกล้องวงจรปิดที่ลงมือก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ไปจริง โดยเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ตนเองขับรถกระบะจะเดินทางไปหาเพื่อนที่อำเภอหนองหงส์ ระหว่างทางเมื่อขับผ่านบริเวณตลาด ได้มองเห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่หน้าร้านค้า โดยเสียบลูกกุญแจคาไว้ ทำให้เกิดความคิดที่จะขโมยรถขึ้นมาในทันที นายเกรียงศักดิ์ให้การอย่างตรงไปตรงมาว่า ในตอนนั้นแค่เห็นรถแล้ว ‘ใจมันอยากได้’ จึงตัดสินใจจอดรถกระบะของตนเองทิ้งไว้ แล้วขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์คันที่ขโมยมา ขับกลับบ้านที่อำเภอลำปลายมาศทันที

เมื่อกลับถึงบ้าน นายเกรียงศักดิ์ได้บอกกับพ่อแม่ว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมีคนนำมาจำนำไว้ จากนั้นได้ให้พ่อขับรถกระบะคันที่ตนเองทิ้งไว้ที่ อ.หนองหงส์ มาให้ โดยไม่ได้เล่าความจริงให้ครอบครัวฟัง

นายเกรียงศักดิ์ ให้การต่ออีกว่า หลังก่อเหตุ ได้นำรถจักรยานยนต์คันที่ขโมยมาไปขายต่อให้กับ นายหม่ำแนท หรือที่รู้จักในชื่อ ชาลี ทูเสน อายุ 50 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งมีอาชีพขายโรตี ในราคาเพียง 10,000 บาท ซึ่งหลังจากการขายรถไปได้เพียง 2 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ติดตามมาพบตนถึงบ้าน

สิ่งที่น่าตกใจคือคำให้การของนายเกรียงศักดิ์ ที่ยอมรับว่า ครอบครัวของตนเองไม่ได้ยากจนแต่อย่างใด รถกระบะ 4 ประตูที่ตนเองขับอยู่ พ่อก็เพิ่งซื้อให้ด้วยเงินสด แต่การกระทำครั้งนี้เป็นเพราะความดื้อและกิเลสของตนเอง ตนเองเสียใจมากที่ทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อน โดยเฉพาะเมื่อเห็นน้ำตาของภรรยา และสงสารลูกที่ต้องมีพ่อในลักษณะเช่นนี้ นอกจากนี้ นายเกรียงศักดิ์ยังยอมรับด้วยว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยจ้างวานให้ผู้อื่นไปขโมยรถจักรยานยนต์มาแล้วครั้งหนึ่ง ที่อำเภอจักรราช จังหวัดนครราชสีมา โดยจ่ายค่าจ้าง 3,500 บาท และนำรถที่ได้ไปขายต่อในราคา 20,000 บาท

นอกเหนือจากข้อหาลักทรัพย์ เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจปัสสาวะของนายเกรียงศักดิ์ ซึ่งพบว่ามีสีม่วง เป็นการยืนยันว่ามีการเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) เข้าไปอีกด้วย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายเกรียงศักดิ์ ในข้อหา “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” และ “เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)” ส่วนนายหม่ำแนท หรือชาลี ทูเสน อายุ 50 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้รับซื้อรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมา ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา “รับของโจร” ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *