ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังระบุว่าจะมีการรื้อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมด ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาพิจารณาและทบทวนนโยบายต่างๆ อย่างรอบด้าน

นายพิชัย เปิดเผยว่า การทบทวนครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ล่าสุดที่สหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญในการทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีอยู่ ว่ามาตรการใดควรดำเนินการต่อ มาตรการใดควรชะลอ หรือมาตรการใดควรปรับเปลี่ยน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต

เมื่อถูกถามถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ นายพิชัย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งทำการบ้านอย่างหนัก โดยในวันพรุ่งนี้ (15 พฤษภาคม) มีกำหนดการเข้าพบผู้บริหารของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารออมสิน เพื่อมอบนโยบายและหารือถึงมาตรการเตรียมการและดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออกที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งจะมุ่งเน้นช่วยเหลือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเฉพาะเจาะจง ไม่ใช่การช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME โดยทั่วไปทั้งหมด

สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หลายคนจับตาอย่างโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยเฉพาะในส่วนของเฟส 3 ที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกในส่วนนี้หรือไม่ นายพิชัย ตอบสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า ขอทบทวนก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการนี้ก็อยู่ในข่ายที่ต้องนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง

ในประเด็นที่ว่า การพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องรอกระบวนการพิจารณางบประมาณประจำปี 2569 ในสภาฯ วาระแรกก่อนหรือไม่ นายพิชัย ปฏิเสธว่าไม่จำเป็นต้องรอ โดยชี้แจงว่า ขณะนี้ยังอยู่ในปีงบประมาณ 2568 หากสามารถปรับเปลี่ยนมาตรการใดๆ ได้ในปัจจุบันก็พร้อมดำเนินการทันที ส่วนการปรับเปลี่ยนในส่วนของปีงบประมาณ 2569 หากมีความจำเป็น ก็เป็นบทบาทของสภาฯ ในการพิจารณาปรับปรุงต่อไป

ท้ายที่สุด นายพิชัย ย้ำว่า สิ่งที่ประเทศไทยต้องการอย่างแท้จริงคือการวางแผนเศรษฐกิจที่ดีในระยะกลางและระยะยาว การตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้งบประมาณ การกู้เงิน หรือการใช้จ่ายต่างๆ จะต้องผ่านการทบทวนและพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง เพื่อให้การใช้ทรัพยากรของประเทศเกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน