ภูมิธรรม ชี้ 2 ทางออก ปมเรือดำน้ำ หลังเยอรมนีไม่ขายเครื่องยนต์ ย้ำเป็นภาระที่ต้องแก้ให้ดีที่สุด
ทำเนียบรัฐบาล, 19 พฤษภาคม 2568 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดของประเด็นการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน ซึ่งประสบปัญหาการจัดหาเครื่องยนต์จากประเทศเยอรมนี โดยยอมรับว่าเป็นภาระที่สืบทอดมาจากคนรุ่นก่อนและกำลังพยายามแก้ไขอย่างเต็มที่
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในการพูดคุยครั้งล่าสุดกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ของเยอรมนี ได้รับการยืนยันถึงจุดยืนของเยอรมนีที่ต้องการช่วยเหลือประเทศไทยบนพื้นฐานของความสัมพันธ์อันยาวนาน อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานะสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) เยอรมนีมีข้อผูกพันที่จะไม่ส่งออกยุทโธปกรณ์ทางทหารที่เชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับประเทศจีน ซึ่งกรณีนี้กระทบโดยตรงต่อการจัดหาเครื่องยนต์สำหรับเรือดำน้ำที่ไทยได้ทำสัญญากับจีนไว้
“ผมได้แสดงความขอบคุณและทำความเข้าใจในสถานการณ์ของทางเยอรมนี ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเยอรมนีก็ได้ส่งสัญญาณผ่านทางกองทัพเรือมาแล้วว่าอาจไม่สามารถพิจารณาเรื่องเครื่องยนต์ได้ จนกว่านโยบายระดับสูงจะมีความชัดเจน ซึ่งตอนนี้ถือว่าชัดเจนแล้วว่าการหาทางออกในเรื่องเครื่องยนต์จากเยอรมนีเป็นไปได้ยาก” นายภูมิธรรมกล่าว
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงถึงแนวทางแก้ไขปัญหาที่กำลังพิจารณาอยู่ว่ามี 2 ทางเลือกหลัก
- ทางเลือกที่หนึ่ง: หากจำเป็นต้องเดินหน้าต่อตามสัญญาเดิมกับประเทศจีน ก็ต้องยอมรับเงื่อนไขหรือปัญหาที่อาจตามมา โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ ซึ่งยังเป็นข้อติดขัดสำคัญที่ต้องหาทางออกต่อไป อาจต้องพิจารณาเครื่องยนต์ทางเลือกอื่น หรือเงื่อนไขอื่นๆ ที่จีนอาจเสนอมา
- ทางเลือกที่สอง: การตัดสินใจยกเลิกสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำโดยสิ้นเชิง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะส่งผลให้มูลค่าการลงทุนกว่า 80% ที่ประเทศไทยได้ดำเนินการไปแล้วต้องสูญเสียไปทั้งหมด โดยไม่ได้รับเรือดำน้ำมาใช้งาน
นายภูมิธรรมกล่าวเสริมว่า ทั้งสองทางเลือกล้วนมีความยากลำบากและมีผลกระทบที่สำคัญ จึงยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในขณะนี้ โดยจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลดีผลเสียในทุกมิติ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่า หากไทยยกเลิกสัญญา อาจมีการยกเรือดำน้ำที่สร้างแล้วให้กับประเทศกัมพูชานั้น นายภูมิธรรมยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน และไม่มีการพูดคุยในประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมขอร้องสื่อมวลชนและประชาชนอย่าพยายามดึงประเทศอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือสร้างความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นในสถานการณ์ที่ไทยก็มีความขัดแย้งภายในอยู่แล้ว
นายภูมิธรรมกล่าวสรุปว่า ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับประเทศที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งจีน เยอรมนี และปากีสถาน แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ ปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำนี้ถือเป็นภาระหน้าที่ที่สืบทอดมาจากผู้บริหารกระทรวงกลาโหมในยุคก่อนๆ ที่ทิ้งไว้ให้ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันจะพยายามแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและกองทัพเรือ
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ยังคงต้องจับตาดูต่อไปว่า รัฐบาลจะตัดสินใจเลือกทางออกใดจากสองทางเลือกที่ยากลำบากนี้ และจะสามารถหาข้อยุติที่เหมาะสมกับทุกฝ่ายได้อย่างไร โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าของงบประมาณและความมั่นคงของประเทศเป็นหลัก