กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีที่กองทัพอากาศไทย ได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่ายบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งสร้างความตกใจและความกังวลให้กับประชาชนบางส่วน

นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โต เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเครื่องบินของประเทศเพื่อนบ้านที่บินทำการอยู่ และได้บินเฉียดผ่านบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ขณะทำการขึ้นบิน

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวต่อว่า เมื่ออากาศยานอยู่ในอากาศ อาจมีความคลาดเคลื่อนในการควบคุมทิศทางได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และเมื่อมีการแจ้งเตือน เครื่องบินลำดังกล่าวก็ได้ถอยห่างออกไปโดยทันที

นายภูมิธรรม ย้ำว่า กองทัพอากาศได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และตรงไปตรงมา โดยได้ส่งเครื่องบิน F-16 ขึ้นไปเพื่อทำการเตือน ก่อนที่อากาศยานลำนั้นจะล้ำเข้ามาในน่านฟ้าไทย ซึ่งการดำเนินการนี้เป็นการป้องกันไว้ก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการรุกล้ำอธิปไตยทางอากาศของไทย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การบินดังกล่าวถือว่าล้ำเข้ามาในเขตแดนของไทยแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า อากาศยานลำดังกล่าวยังคงบินอยู่ที่บริเวณขอบชายแดนเท่านั้น ไม่ได้ล้ำเข้ามาในน่านฟ้าไทยอย่างสมบูรณ์ กองทัพอากาศจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อส่งสัญญาณเตือน

ส่วนกรณีที่มีการสอบถามถึงประเด็นอากาศยานไร้คนขับ (โดรน UAV) ของกรมแผนที่ทหารที่ปรากฏในวิดีโอซึ่งถ่ายโดยประชาชน นายภูมิธรรมกล่าวสั้นๆ ว่า ขอไม่ลงรายละเอียดในประเด็นดังกล่าว และยืนยันว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ใช่ปัญหารุกล้ำดินแดนที่น่ากังวล

นายภูมิธรรม กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า ขณะนี้ได้มีการเจรจาและทำความเข้าใจกับทางฝ่ายประเทศเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้ว และทุกฝ่ายมีความเข้าใจตรงกัน สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว และขอให้ประชาชนอย่าได้เป็นกังวลมากเกินไป