ลพบุรี – เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 นายภูมิธรรม เวชชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการฝึกและตรวจสอบการปฏิบัติของกรมทหารราบเฉพาะกิจ กองพลทหารราบที่ 11 ประจำปี 2568 ณ สนามฝึกทางยุทธวิธี ศูนย์การทหารปืนใหญ่ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับ

การฝึกครั้งนี้เป็นการประกอบกำลังร่วมกับหน่วยส่วนฐานกองพล ตามแนวทางการเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับ กองพลทหารราบที่ 11 ซึ่งเป็นกองพลทหารราบยานเกราะ เพื่อให้มีความพร้อมในการป้องกันประเทศและปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ของกองทัพบกได้อย่างเต็มขีดความสามารถ

นอกจากนี้ กองพลทหารราบที่ 11 ยังได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยต้นแบบในการใช้กำลังเข้าทำการรบและปฏิบัติภารกิจในรูปแบบของ กรม ร.ผสม (Brigade Combat Team) ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างและยุทธวิธีเพื่อรองรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

นายภูมิธรรม เวชชชัย กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า การฝึกผสมในครั้งนี้ถือเป็นการฝึกใหญ่ในรอบ 5 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการฝึกฝนเตรียมความพร้อมของกำลังพลเป็นอย่างดี การฝึกร่วมกันเช่นนี้เป็นการยกระดับคุณภาพการฝึกให้สูงขึ้น และถือเป็นก้าวสำคัญสู่การเป็นกองทัพที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพในการรบเพิ่มมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่ายังมียุทโธปกรณ์อีกหลายส่วนที่ยังขาดแคลน ซึ่งอาจทำให้ประชาชนบางส่วนไม่เข้าใจถึงความจำเป็นในการเพิ่มกำลังรบหรือจัดหายุทโธปกรณ์ ในเมื่อไม่มีสงคราม แต่ท่านยืนยันว่าทั้งหมดนี้คือการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

“จากการได้ชมการซ้อมในวันนี้ ผมค่อนข้างมั่นใจในศักยภาพของกองทัพ การรบสมัยใหม่ไม่ใช่แค่การเดินเท้าและยิงปืนอีกต่อไป แต่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างหลากหลาย ดังนั้นการลดกำลังพลและเพิ่มประสิทธิภาพด้านยุทโธปกรณ์จึงเป็นแนวทางที่ดี ต้องขอชื่นชมหน่วยที่มีความพร้อมเป็นอย่างมาก” นายภูมิธรรม กล่าวและเสริมว่านอกเหนือจากการรบแล้ว ยังได้เห็นการฝึกในส่วนของการคุ้มครอง และการส่งกลับสายแพทย์ โดยเฉพาะการลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งทำได้อย่างปลอดภัย

เมื่อถูกถามถึงนโยบายการจัดซื้อยุทโธปกรณ์เพิ่มเติม นายภูมิธรรม ยืนยันว่าในเชิงนโยบายพร้อมที่จะสนับสนุน แต่การพิจารณาจะต้องคำนึงถึงความจำเป็นและขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ ต้องอยู่ในแผนที่เหมาะสมและมีความสมดุลกับจำนวนกำลังพลที่มีอยู่ โดยจะสนับสนุนการจัดหายุทโธปกรณ์ที่จำเป็นและเหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างแท้จริง

สำหรับคะแนนของการซ้อมรบในวันนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ให้เกินครึ่งอย่างแน่นอน และได้กล่าวชื่นชมพร้อมให้กำลังใจกำลังพลของกองทัพในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ท้ายสุด นายภูมิธรรม ย้ำว่า การฝึกในครั้งนี้เป็นไปตามวงรอบปกติของการฝึกทหารเท่านั้น ไม่ได้มีนัยยะหรือเป็นการส่งสัญญาณใดๆ ไปยังประเทศเพื่อนบ้านหรือตามแนวชายแดน