นครพนม – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับคดีของ นายพอล แชมเบอร์ส นักวิชาการชาวอเมริกันและอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าอาจมีผลต่อการเจรจากับสหรัฐอเมริกาในเรื่องการขึ้นกำแพงภาษีนำเข้า

นายภูมิธรรม ชี้แจงในเรื่องนี้ว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งรัดดำเนินการอยู่ และได้ทำทุกอย่างภายในกรอบที่กฎหมายให้อำนาจอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ ยืนยันว่ากระบวนการทั้งหมดดำเนินการไปอย่างรอบคอบที่สุด ขอให้ทุกฝ่ายรอข้อเท็จจริง เนื่องจากเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

เมื่อถูกถามถึงระยะเวลาในการตรวจสอบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างประเทศ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมกำลังเร่งดำเนินการให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังเร่งพิจารณาเพื่อให้น้ำหนักในแต่ละประเด็นมีความชัดเจนและถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย

ส่วนประเด็นที่มีการคาดเดาว่า อาจมีการแลกเปลี่ยนเรื่องคดีนี้กับการที่สหรัฐฯ ยอมเจรจาเรื่องกำแพงภาษีนำเข้า นายภูมิธรรม อุทานด้วยความแปลกใจและปฏิเสธข้อสันนิษฐานดังกล่าวทันที โดยกล่าวว่า “โอ้ อย่าเพิ่งไปคาดเดาอย่างนั้นเลย” ย้ำว่าการเจรจากับสหรัฐฯ ในเรื่องการค้าและภาษีก็เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาต่างก็มีเหตุผลและดำเนินการไปตามปกติ

ขณะที่เรื่องคดีของ นายพอล แชมเบอร์ส ก็ต้องพิจารณาว่ามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ หากมีความผิดอย่างชัดเจนก็ต้องดำเนินไปตามกระบวนการ ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง

สำหรับคำถามเกี่ยวกับกรณีที่อดีตสมาชิกวุฒิสภา ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณปี 2568 ที่ต้องใช้หนี้สาธารณะ ไปใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 นั้น นายภูมิธรรม กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ก็ให้ ป.ป.ช. ว่าไป” โดยไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติม

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.15 น. ของวันที่ 29 เมษายน 2568 ณ หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม จังหวัดนครพนม