“ภูมิธรรม” เตรียมชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญครั้งที่ 2 ปม สว. ยื่นคำร้องเพิ่ม กล่าวหาละเลยหน้าที่กรณี “ทวี-ดีเอสไอ” ยันสถานการณ์ไม่เกี่ยวความขัดแย้งทางการเมือง

ทำเนียบรัฐบาล, 19 พฤษภาคม 2568 – เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ณ ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองและประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง โดยเฉพาะกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นคำร้องต่อหน่วยงานต่างๆ

นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการเรียก สว. เข้าชี้แจงเรื่องการฮั้ว สว. ว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ไม่มีนัยยะของความขัดแย้งทางการเมืองในรูปแบบ “สงครามตัวแทนสีแดงและสีน้ำเงิน” ตามที่บางฝ่ายอาจมอง ซึ่งเป็นเพียงมุมมองความเห็นส่วนบุคคล

“ผมไม่ได้คิดว่ามีปัญหาเรื่องแดง น้ำเงิน ก็คิดกันไป เพราะอยู่ครม.เราก็คุยกัน ไม่ว่าจะเป็นคนพวกเดียวกันหรือพรรคเดียวกัน ถ้าทำผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฎหมาย ส่วนจะผิดหรือไม่ผิด ก็ให้ศาลพิจารณา” นายภูมิธรรม กล่าวย้ำ โดยชี้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น กกต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต่างก็กำลังดำเนินการตามหน้าที่ของตนเอง

ในส่วนของความคืบหน้ากรณีที่ สว. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตนนั้น นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า กำลังเตรียมการทำเรื่องชี้แจงเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นครั้งที่สอง เนื่องจาก สว. ได้ยื่นคำร้องเพิ่มเติม โดยมีประเด็นสำคัญคือ การกล่าวหาว่าตนละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และดีเอสไอ ดำเนินการที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย และได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ทีมทนายความกำลังพิจารณาและเตรียมการชี้แจงประเด็นตามคำร้องเพิ่มเติมดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการชี้แจงครั้งที่สองต่อศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่ สว. ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามความผิดมาตรา 157 นั้น ขณะนี้ทาง ป.ป.ช. ยังไม่ได้มีการเรียกตนเข้าไปชี้แจงแต่อย่างใด แต่พร้อมที่จะให้ข้อมูลหากมีการสอบถามมา

เมื่อถูกถามถึงความกังวลเกี่ยวกับการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ นายภูมิธรรม แสดงความมั่นใจว่า ตนได้ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดตามข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ฝ่ายปฏิบัติงานคือดีเอสไอเสนอมา และยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงานของดีเอสไอ

“ผมยุ่งเฉพาะตอนที่เขาเสนอให้เป็นคดีพิเศษ เราก็พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง” นายภูมิธรรม กล่าว และอธิบายเพิ่มเติมถึงกระบวนการในการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษว่า ได้มีการพิจารณาแยกแยะคดีอย่างชัดเจน โดยเรื่องใดที่อยู่ในอำนาจของ กกต. ก็มอบให้ กกต. ไปดำเนินการ ส่วนเรื่องที่ดีเอสไอเสนอมาในที่ประชุม คณะกรรมการก็พิจารณาตามที่เสนอ และหลังจากนั้นหน่วยงานต่างๆ ก็ทำหน้าที่ตามอำนาจและกระบวนการทางกฎหมายของตนเอง