ภูมิธรรม เข้าพบ จุฬาราชมนตรี เห็นพ้องเร่งแก้ปัญหาชายแดนใต้ ย้ำหลักศาสนาไม่สอนให้ฆ่า พร้อมเดินหน้าเจรจา-เตรียมบินมาเลเซีย
กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ณ สำนักจุฬาราชมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง
นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า การเข้าพบครั้งนี้เกิดขึ้นจากความห่วงใยร่วมกันในสถานการณ์จังหวัดชายแดนใต้ โดยทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้ประสานติดต่อมา ขณะเดียวกันตนเองก็มีความตั้งใจที่จะเข้าพบเพื่อกราบเรียนและขอรับฟังมุมมองจากจุฬาราชมนตรี ซึ่งมีความเข้าใจในบริบทและความรู้สึกของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่มากกว่า
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลังจากการหารือ ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่มีใครอยากเห็นการเข่นฆ่าทำร้ายกัน เพราะการกระทำดังกล่าวขัดแย้งกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น แนวทางการแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องมาจากการพูดคุยและพบปะกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลและความเห็นมาประกอบกันในการหาทางออกที่ยั่งยืน
นายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า จุฬาราชมนตรีและคณะได้นำเสนอประเด็นปัญหาและแนวทางแก้ไขหลายส่วน โดยมีข้อเสนอแนะให้มีการร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา ซึ่งตนยังไม่ขอลงรายละเอียดในขณะนี้ แต่เชื่อมั่นว่าจากนี้ไปจะมีระบบการพูดคุยที่ดีขึ้น และตนเองจะเพิ่มการพูดคุยกับทุกภาคส่วนให้มากขึ้น ทั้งนี้ ทุกฝ่ายที่ได้พูดคุยมามีความเห็นตรงกันว่าปัญหาน่าจะมีทางออก ซึ่งตนจะนำข้อเสนอแนะและข้อมูลต่างๆ ไปพิจารณาและดำเนินการต่อไป
เมื่อถูกถามถึงประเด็นการบิดเบือนหลักศาสนาของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ นายภูมิธรรม ย้ำชัดว่า หลักการของศาสนาอิสลาม ไม่ได้มีคำสอนให้เกิดการฆ่าใคร การฆ่ากันถือเป็นบาปอย่างยิ่ง และตัวหลักศาสนาเองก็ไม่ได้เป็นปัญหาในส่วนนี้ การอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนมุสลิมและชุมชนไทยพุทธสามารถทำได้ และสังคมพหุวัฒนธรรมไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่สันติสุขร่วมกันได้
จุฬาราชมนตรีประณามการกระทำโหดร้าย
จุดยืนของจุฬาราชมนตรีคือความปรารถนาที่จะเห็นสันติสุขเกิดขึ้นในพื้นที่ และต้องการเห็นความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว จุฬาราชมนตรีได้ประณามการกระทำที่โหดร้ายทารุณต่อเพื่อนมนุษย์ โดยย้ำว่าการกระทำเหล่านั้นผิดหลักศาสนาอย่างชัดเจน นายภูมิธรรมเชื่อว่าทุกหลักศาสนาล้วนไม่สนับสนุนการเข่นฆ่า แต่ต่างมุ่งหวังให้เกิดสันติสุข ความสงบ และการเคารพซึ่งกันและกัน
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้ายว่า จำเป็นต้องค้นหาต้นตอของปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขอย่างแท้จริง และตนพร้อมเสมอสำหรับการพูดคุยและเจรจา ย้ำว่าจะต้องมีการพูดคุยกับอีกหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนมีกำหนดการเดินทางไปประเทศมาเลเซียในลำดับต่อไป เพื่อหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้
สำหรับคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในช่วงใกล้สิ้นสุดเดือนรอมฎอน ซึ่งโดยปกติมักเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบ นายภูมิธรรมยอมรับว่าเคยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงท้ายของรอมฎอน แต่ได้มีการตกลงร่วมกันแล้วว่าขออย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น หากสามารถจบปัญหาและพูดคุยได้ ตนก็พร้อม และย้ำความตั้งใจที่จะพูดคุยกับผู้ที่มีศักยภาพในการนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง