ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 เมษายน 2568 บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลคึกคักเป็นพิเศษภายหลังการประชุมเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี ประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

ไฮไลท์อยู่ที่ภาพความหวานชื่นระหว่างแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ได้เดินคล้องแขนคู่กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และดูมีอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลได้สอบถามถึงเนื้อหาการประชุม นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมเพื่อติดตามและเร่งรัดการทำงานที่ยังคงค้างอยู่ของแต่ละกระทรวง โดยเฉพาะยอดการเบิกจ่ายงบประมาณที่ยังมีบางส่วนยังไม่เต็มที่ ซึ่งการประชุมเพื่อติดตามเรื่องนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้ว โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา และมาถึงขณะนี้ การเร่งรัดงบประมาณก็มีอัตราการเบิกจ่ายที่ดีขึ้นในระดับที่น่าพอใจ และนายกรัฐมนตรีก็แสดงความพึงพอใจกับตัวเลขที่สูงขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ทุกกระทรวงก็จะกลับไปทำงานเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้งบประมาณเข้าสู่ระบบและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อเนื่องว่า การที่นายกรัฐมนตรีให้ทุกพรรคที่คุมกระทรวงต่างๆ กลับไปทำงานได้ตามปกติ เป็นสัญญาณว่าการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลจะดำเนินต่อไปอย่างยาวนานใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมถึงกับหัวเราะออกมา ก่อนจะตอบสั้นๆ ว่า “มันไม่มีประเด็นที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะทำงานด้วยกันดีมาตลอด”

ผู้สื่อข่าวไม่ละความพยายาม ถามต่อว่า นอกจากเรื่องงบประมาณแล้ว มีการพูดคุยถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลภายในที่ประชุมหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบพร้อมทั้งผายมือไปที่นายอนุทินที่ยืนอยู่ข้างๆ ว่า “เนี่ยผมเดินจูงแขนกันลงมาเลย นี่ไงก็ยังรักกันดีอยู่”

จากนั้น นายภูมิธรรมได้หันไปทางนายอนุทิน และบอกให้นายอนุทินพูดกับสื่อบ้าง นายอนุทินจึงแสดงอารมณ์ขันด้วยการกระเซ้ากลับมาว่า “เดี๋ยวหอมแก้ม” ทำให้นายภูมิธรรมถึงกับถามสื่อกลับว่า “ต้องให้หอมแก้มเหรอ” ก่อนจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีพร้อมกล่าวยืนยันว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง รัฐบาลยังคงร่วมมือและดำเนินการทำงานได้อย่างเต็มที่ในทุกฝ่าย และตอนนี้กำลังเร่งรัดให้การบริหารการเงินในระบบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการนำงบประมาณเหลื่อมปีมาบริหารจัดการให้เต็มที่

ต่อข้อถามที่ว่า ระหว่างการประชุม นายกรัฐมนตรีได้มีการพูดถึงกระแสข่าวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบปฏิเสธทันที โดยระบุว่า มีแต่การคุยกันเรื่องตลก “อันนี้ผมพูดเอง ไม่ใช่นายกฯ พูด” นายภูมิธรรม ยืนยันหนักแน่นว่าเรื่องความขัดแย้งไม่มีอยู่จริง ตนถูกสื่อมวลชนสอบถามในประเด็นนี้บ่อยจนถึงขั้นสงสัยแล้วว่าข่าวลือดังกล่าวมีอยู่จริงหรือไม่

ก่อนจะแยกย้ายกันไป นายภูมิธรรม ได้เดินควงแขนและจับมือนายอนุทิน เดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 อย่างเปิดเผย สร้างรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็น ผู้สื่อข่าวจึงแซวต่อไปอีกว่าจะจับมือกันไปจนถึงปี 2570 เลยหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขและเสียงดังฟังชัดว่า “จับมือกันชั่วนิรันดร์” เป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ