เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2568 ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศส่วนตัวกลางสภา ไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน แม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทยที่เสนอกฎหมายเอง ว่า กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่อยากให้บิดเบือน มันไม่ใช่กฎหมายกาสิโน

กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว การเข้ามาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่เปิดให้นักพนันเข้ามา แต่เป็นเรื่องของการพาครอบครัวมาเที่ยว เพราะมีทุกอย่างในนั้นพร้อม ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารชื่อดัง ห้างสรรพสินค้า ฉะนั้น อย่าเอาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มาเป็นประเด็นทางการเมือง อย่าบิดเบือนเป็นเรื่องกาสิโน นี่เป็นเรื่องแรกที่ต้องทำความเข้าใจ

สำหรับใครที่จะเข้ากาสิโน ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปก็ได้ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าคนในประเทศไทย คนที่มีความชื่นชอบหรือเข้าไปใช้บริการกาสิโนจะมีสักเท่าไหร่ เพราะจะต้องมีเงินฝากไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ตนยังเข้าไม่ได้เลย อยากเข้าแต่หากมีเงินไม่ถึง 50 ล้านบาท ก็ไม่สามารถเข้าได้ ถ้าไม่อยากเข้าก็ไม่ต้องห่วงเพราะเข้าไม่ได้อยู่ดี ฉะนั้นเรื่องนี้สำคัญ

“กรณีคุณไชยชนก ผมไม่แน่ใจว่าตกลงแล้ว คุณอนุทิน ชาญวีรกูลหรือ คุณไชยชนก ใครเป็นหัวหน้าพรรค เพราะในที่ประชุมหัวหน้าพรรคต่างๆ เราคุยกันชัดเจนแล้วว่าสิ่งที่เราทำ เราพยายามสร้างรายได้เข้าประเทศ แล้วมันจะไม่กระทบกระเทือนศีลธรรมทั้งหลาย เพราะเป็นเรื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนคนไทยก็มีเงื่อนไข” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า จริงๆนายไชยชนก ก็เป็นเลขาธิการพรรคอยู่แล้ว ความเป็นเลขาธิการพรรค การร่วมมือกันด้วยหลักการ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว อยู่ๆประกาศ ผมชื่อไชยชนก เป็นลูกนายเนวินกับแม่กรุณา ถามว่านายไชยชนก ประกาศตัว กำลังจะบอกอะไร

“อยากถามจะบอกอะไร แล้วระหว่างคุณไชยชนกกับคุณอนุทิน ผมควรจะเชื่อใคร เพราะวันนั้นที่ไปแถลง คุณอนุทิน เป็นหัวหน้าพรรค ก็คุยกันและเห็นพ้องกัน แต่ที่เราเลื่อนเพราะว่ามีปัญหาประเทศชาติ การเป็นเลขาธิการพรรคควรมีความเข้าใจ ไม่อยากจะบอกว่าวุฒิภาวะ ควรจะมีความเข้าใจมากกว่านี้ และควรทำอะไรที่มีความสุขุมรอบคอบมากกว่านี้” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่าจะทำให้สังคมสับสนหรือไม่ เพราะนายภูมิธรรมยังตั้งข้อสังเกตเรื่องบทบาท และสงสัยในบทบาทภาคร่วมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สังคมคงเข้าใจตามคุณ(หมายถึงสื่อ) ตนเชื่อว่าสื่อเข้าใจอยู่แล้ว

ส่วนที่พรรคประชาชาติ ออกแถลงการณ์ว่าในฐานะเป็นพรรคของคนมุสลิม ไม่สามารถรับเรื่องแบบนี้ได้ และน่าจะมี สส. มุสลิม อีกหลายคนที่รับไม่ได้เช่นกัน จะทำอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นกระบวนการที่แต่ละพรรคต้องไปคุยกัน อย่าลืมว่าที่มาตกลงร่วมรัฐบาลกัน ตอนที่ทำนโยบายนี้ ก็นั่งทำด้วยกัน ไม่ใช่เราทำคนเดียว เมื่อร่วมทำด้วยกัน แถลงต่อสภาด้วยกัน ยกมือด้วยกันแล้ว ถึงตอนนี้ถ้าจะมีเป็นอย่างอื่น ก็คงต้องเข้าไปทำความเข้าใจสิ่งที่ตัวเองเคยพูด เคยทำไว้