วิจารณ์หนัก! งานวิ่งการกุศลภูเก็ต ไร้มาตรการปลอดภัย ปล่อยนักวิ่งขึ้นเกาะกลางถนนเสี่ยงอันตราย
ภูเก็ต – กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์ เมื่อผู้เข้าร่วมงานวิ่งการกุศลในจังหวัดภูเก็ตรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพและข้อความแสดงความกังวลเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของงาน หลังพบนักวิ่งจำนวนไม่น้อยต้องขึ้นไปวิ่งบนเกาะกลางถนน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างยิ่ง
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลรายการหนึ่ง ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่สวนสาธารณะสะพานหิน อำเภอเมืองภูเก็ต และใช้เส้นทางวิ่งไปตามถนนศักดิเดช ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต ก่อนจะกลับตัวที่บริเวณอ่าวมะขาม รายได้จากการจัดงานมีวัตถุประสงค์เพื่อบริจาคให้กับโรงพยาบาล
ปัญหาที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงคือ ช่วงหนึ่งของเส้นทางการวิ่ง โดยเฉพาะบนถนนศักดิเดช นักวิ่งชายหญิงจำนวนมากต้องวิ่งบนเกาะกลางถนน ซึ่งตามปกติไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการวิ่ง และอาจมีสิ่งกีดขวางหรือไม่เรียบ ทำให้เสี่ยงต่อการสะดุด หกล้ม หรือแม้กระทั่งถูกเฉี่ยวชนหากรถยนต์เสียหลัก
ผู้โพสต์ต้นเรื่องได้ตั้งคำถามถึงผู้จัดงานว่า ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักวิ่งมากกว่านี้หรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณถนนมะขามพันวา/ถนนภูเก็ต ซึ่งเป็นเส้นทางที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ภายหลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ไปในทิศทางเดียวกันคือ แสดงความกังวลถึงความไม่ปลอดภัย โดยระบุว่า ในหลายจุดของเส้นทางวิ่ง แทบไม่พบเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยอย่างเพียงพอ หรือมีการตั้งกรวยเพื่อแบ่งเส้นทางวิ่งอย่างชัดเจนและเป็นระเบียบ
หลายความเห็นยังระบุว่า กรวยที่ตั้งไว้ริมถนนก็มีจำนวนน้อยมาก และบางจุดก็ไม่มีกรวยตั้งเลย ยิ่งไปกว่านั้น มีการตั้งข้อสังเกตว่านักวิ่งชาวต่างชาติบางคนอาจไม่เข้าใจหรือไม่ได้ให้ความสนใจกับกรวยที่วางไว้ ทำให้เกิดความสับสนและเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ง่ายขึ้น
ข้อสงสัยที่สำคัญที่ถูกถามซ้ำๆ คือ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับนักวิ่งในระหว่างงาน ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเห็นว่าขาดการจัดการด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากบนพื้นที่สาธารณะที่มีการจราจร
ประเด็นนี้กำลังเป็นที่จับตาของสังคมและผู้ที่รักการวิ่ง ว่าผู้จัดงานจะออกมาชี้แจงหรือมีแนวทางแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยในงานครั้งต่อๆ ไปอย่างไร เพราะถึงแม้จะเป็นงานการกุศล แต่ชีวิตและความปลอดภัยของนักวิ่งคือสิ่งที่สำคัญที่สุด