โซเชียลแชร์สนั่น! ล่าสองพ่อลูกฉก Samsung Watch Ultra มูลค่าเฉียด 2.4 หมื่น ที่ห้างดังภูเก็ต วอนนำคืนก่อนดำเนินคดี
ภูเก็ต – กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์ต่ออย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อแจ้งเบาะแสตามหาตัวผู้ต้องสงสัยสองราย ซึ่งคาดว่าเป็นพ่อลูกกัน หลังก่อเหตุขโมยนาฬิกาอัจฉริยะมูลค่าสูงกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังในจังหวัดภูเก็ต
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.14 น. ภายในร้านค้าทรู ช้อป (True Shop) ที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต (Central Phuket) โดยภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นชายสวมเสื้อยืดสีดำมีลาย และเด็กชายสวมเสื้อสีแดง ได้เดินเข้ามาในร้านและทำทีเป็นเลือกดูนาฬิกาที่วางจำหน่ายอยู่
จากภาพที่บันทึกได้ ชายและเด็กคนดังกล่าวได้ใช้จังหวะที่อาจไม่มีพนักงานดูแลในจุดที่พวกเขายืนอยู่ ฉวยโอกาสหยิบนาฬิกาซัมซุง วอทช์ อัลตร้า (Samsung Watch Ultra) ซึ่งเป็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นท็อปที่มีราคาสูงถึง 23,900 บาท ก่อนจะเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว
ผู้เสียหายได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊ก “เหยี่ยวข่าวภูเก็ต V.2 [กลุ่มแจ้งข่าว]” เพื่อขอความช่วยเหลือในการติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมระบุข้อความว่าได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจเรียบร้อยแล้ว และได้ฝากข้อความถึงผู้ก่อเหตุหรือผู้ที่รู้จักบุคคลในคลิปดังกล่าว
ข้อความเตือนระบุว่า “หากท่านใดรู้จักบุคคลในคลิปวิดีโอนี้ หรือผู้ก่อเหตุได้เห็นพฤติกรรมของตัวเอง โปรดนำทรัพย์สินของบริษัทมาส่งคืนโดยด่วน มิเช่นนั้นทางบริษัทจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” ซึ่งเป็นการยื่นคำขาดให้ผู้ก่อเหตุนำทรัพย์สินที่ขโมยไปกลับมาคืนก่อนที่เรื่องจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบ
หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือด ต่างไม่เข้าใจถึงความกล้าหาญของผู้ก่อเหตุที่ลงมือก่ออาชญากรรมในยุคที่กล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่แทบทุกหนทุกแห่ง โดยมีความคิดเห็นในทำนองว่า “ช่างกล้านะไม่รู้เลยเหรอว่า สมัยนี้กล้องวงจรปิดมีเยอะมากๆ”, “ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ เหรอ ว่ากล้องวงจรปิดที่ไทยแม่งมีเกือบทุกที่ มีกล้องเยอะกว่าตำรวจอีก ทำไรไว้มักโดนจับภาพไว้ได้หมด” นอกจากนี้ยังมีคำถามเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัย เช่น “แล้วสัญญาณไม่ดังเหรอคับ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสงสัยในมาตรการป้องกันของร้าน
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองรายจากพยานหลักฐานที่ได้รับ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่ชัดเจน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในการสืบสวนสอบสวนต่อไป ประชาชนที่มีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับบุคคลในภาพ สามารถแจ้งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประโยชน์ในการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป