ปมร้อน 32,000 บาท! เจ้าของคอนโดหรูภูเก็ตแจงชัด หลังถูกสาวยูเครนทำลายห้อง ย้ำคนทำไม่ใช่ผู้เช่า ตำรวจเตรียมออกหมายจับ
ภูเก็ต – จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมหรูในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ถูกทำลายจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยมีการแชร์ภาพสภาพห้องที่ข้าวของกระจัดกระจายและมีร่องรอยการขีดเขียนไปทั่วผนังและฝ้าเพดาน พร้อมข้อความที่พาดพิงถึงตัวเลข “32,000 บาท” ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเป็นประเด็นเรื่องการทวงคืนเงินประกันห้องเช่า จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ โดยทางเจ้าของห้องเช่าได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อทำความเข้าใจกับสังคมในประเด็นเกี่ยวกับเงินประกันจำนวน 32,000 บาท ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะยึดเงินประกันของผู้เช่าแต่อย่างใด แต่การคืนเงินดังกล่าวจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้ระบุไว้ในสัญญาเช่า ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ทำไว้ระหว่างเอเย่นต์ของทั้งสองฝ่าย คือฝั่งผู้เช่าและฝั่งผู้ให้เช่า
เจ้าของห้องเช่าได้อธิบายถึงเหตุผลสำคัญที่ยังไม่สามารถคืนเงินประกันให้กับผู้ที่อ้างสิทธิ์ขอรับเงินในขณะนี้ได้ ดังนี้
- เงื่อนไขตามสัญญาเช่า: สัญญาเช่าระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เงินประกันจะถูกคืนภายใน 14 วัน หลังจากมีการตรวจสอบและหักค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหากทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีทรัพย์สินเสียหายและไม่มีค่าใช้จ่ายค้างชำระ ก็พร้อมดำเนินการคืนเงินให้ทันที
- การโอนเงินต้องตรงกับผู้ทำสัญญา: ยืนยันว่าจะโอนเงินคืนเข้าบัญชีของผู้ที่มีชื่อเป็นผู้ทำสัญญาเช่าเท่านั้น ไม่ว่าจะอยู่ประเทศใดก็ตาม แต่จากการตรวจสอบ QR code ที่ได้รับมาจากเอเย่นต์ พบว่าไม่ใช่ชื่อบัญชีของผู้ที่ทำสัญญาเช่า ทำให้ไม่สามารถดำเนินการโอนเงินให้ได้ เนื่องจากผิดเงื่อนไขการทำธุรกรรม
- ปัญหาการตรวจสอบสภาพห้อง: ก่อนที่ผู้เช่าจะออกจากห้องพัก ทางเอเย่นต์ของผู้ให้เช่าได้ขอวิดีโอคอลเพื่อตรวจสอบสภาพห้องก่อนดำเนินการคืนเงินประกัน แต่ทางผู้เช่าไม่สามารถดำเนินการตามคำขอดังกล่าวได้ จึงทำให้ไม่สามารถตรวจสอบความเสียหายหรือสภาพห้องพักได้อย่างครบถ้วน
- ผู้ขอคืนเงินไม่ใช่ผู้ทำสัญญา: ประเด็นสำคัญคือ ผู้ถือสัญญาเช่าเป็นชาวรัสเซีย แต่ผู้ที่อ้างสิทธิ์ขอรับเงินคืนและเป็นผู้ที่ปรากฏภาพว่าทำลายข้าวของในห้อง กลับเป็นหญิงสาวชาวยูเครน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งว่าเป็นผู้ร่วมพักอาศัยอย่างเป็นทางการตามสัญญาเช่า ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์และสิทธิ์ในการขอรับเงิน
- มีค่าใช้จ่ายค้างชำระ: ผู้เช่ายังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ค้างชำระอยู่หลายรายการ ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่นๆ แต่กลับเรียกร้องขอเงินประกันคืนเต็มจำนวน โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายส่วนนี้
จากเหตุผลและข้อเท็จจริงข้างต้น ทำให้เจ้าของห้องเช่ามองว่าไม่สามารถดำเนินการคืนเงินประกันจำนวน 32,000 บาท ให้กับผู้ที่มาขอรับเงิน ซึ่งไม่ใช่คู่สัญญาตัวจริงได้ โดยกล่าวทิ้งท้ายด้วยความกังวลว่า ขณะนี้ตนกำลังตกเป็นจำเลยของสังคม ทั้งที่ตนเป็นฝ่ายได้รับความเสียหายทั้งทรัพย์สิน และคนที่มาขอคืนเงินก็ไม่ใช่คู่สัญญาที่แท้จริง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งเชิญตัวผู้ทำสัญญาเช่ามาสอบสวน เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏ และสังคมได้ทราบว่าฝ่ายใดมีเจตนาไม่สุจริตในเรื่องนี้
ในส่วนของความคืบหน้าทางคดีความ พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวิชิต (ผกก.สภ.วิชิต) ได้เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับคดีการทำลายห้องพักคอนโดมิเนียมดังกล่าว ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.วิชิต ได้ดำเนินการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ไปยังหญิงสาวชาวยูเครน ซึ่งถูกระบุว่าเป็นเพื่อนของผู้เช่าห้องและเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำลายข้าวของในห้องพักแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ หญิงสาวยูเครนรายดังกล่าวยังไม่ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด
พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง กล่าวเพิ่มเติมว่า หากหญิงสาวชาวยูเครนไม่มาตามหมายเรียกในครั้งที่ 1 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เป็นลำดับต่อไป และหากยังคงเพิกเฉยไม่มาพบตามหมายเรียกครั้งที่ 2 พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าหญิงสาวชาวยูเครนผู้ก่อเหตุยังคงพำนักอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และยังไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป