พิจิตร – เหลือเวลาอีกเพียง 14 วัน ก่อนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งท้องถิ่นในจังหวัดพิจิตร บรรยากาศการหาเสียงใน 3 เทศบาลเมืองหลัก ได้แก่ เทศบาลเมืองพิจิตร เทศบาลเมืองตะพานหิน และเทศบาลเมืองบางมูลนาก กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายอย่างคึกคักและดุเดือด

ผู้สมัครทั้งในตำแหน่งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลต่างเร่งลงพื้นที่ เคาะประตูบ้านพบปะประชาชนอย่างเข้มข้น เพื่อขอคะแนนสนับสนุนก่อนถึงวันเลือกตั้งจริงในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความคึกคักดังกล่าว ได้เกิดกระแสความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของบรรดาหัวคะแนนในหลายพื้นที่ โดยมีรายงานว่า มีการดำเนินการจดรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งสร้างความกังวลว่าจะนำไปสู่การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

นอกจากนี้ กระแสข่าวในกลุ่มคอการเมืองท้องถิ่นยังกระซิบกันหนาหูว่า ในช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้ อาจมีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ชุมชนกระสุนตก” หรือการทุ่มเงินซื้อเสียงในบางพื้นที่ โดยเฉพาะจากผู้สมัครนายกบางรายที่เชื่อว่า “ทุ่มไม่อั้น แพ้ไม่ได้” สะท้อนถึงการแข่งขันที่สูงและเดิมพันที่ดุเดือดอย่างแท้จริง

นายอมร รัชตังกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นในจังหวัดพิจิตรครั้งนี้ ครอบคลุมทั้งหมด 28 แห่ง แบ่งเป็นเทศบาลเมือง 3 แห่ง และเทศบาลตำบลอีก 25 แห่ง

ขณะนี้ กกต.พิจิตรกำลังจับตาบรรยากาศการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะใน 3 เทศบาลเมือง ซึ่งมีการแข่งขันสูงและดุเดือดมาก นายอมรกล่าวด้วยความห่วงใยว่า อาจมีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเกิดขึ้น

เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง ทาง กกต.พิจิตร ได้ประสานงานกับผู้ตรวจการ กกต. และได้ส่งชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่เพื่อหาข่าวและเฝ้าระวังพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมายแล้ว

นายอมรยังระบุว่า นอกจาก 3 เทศบาลเมืองแล้ว ยังมีอีกหลายพื้นที่ในส่วนของเทศบาลตำบลที่ กกต.ให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังเช่นกัน เช่น เทศบาลตำบลวังตะกู, เทศบาลตำบลทับคล้อ, เทศบาลตำบลเขาทราย, เทศบาลตำบลโพทะเล, เทศบาลตำบลกำแพงดิน และอีกหลายแห่ง ซึ่งทาง กกต.ได้ส่งชุดผู้ตรวจการลงพื้นที่แล้วเช่นกัน

ผู้อำนวยการ กกต.พิจิตรเน้นย้ำว่า หากพบการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ปัจจุบัน กกต.พิจิตรได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแล้วจำนวน 2 เรื่อง ซึ่งเป็นกรณีเกี่ยวกับการ “แจกเงิน” และ “แจกสิ่งของ” เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ทาง กกต.กำลังดำเนินการตรวจสอบตามระเบียบต่อไป