รองนายกฯ พิชัย ชุณหวชิร พร้อมคณะ ‘จิราพร-ชญาภา’ ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด ติดตามโครงการพักหนี้เกษตรกร ระยะ 2 ย้ำรัฐบาลหนุนฟื้นฟู เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน

ร้อยเอ็ด, 3 พฤษภาคม 2568 – นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ น.ส.ชญาภา สินธุไพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่โรงเรียนจตุรพักตรพิมานรัชดาภิเษก จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพลูกค้าพักชำระหนี้ ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสำคัญของรัฐบาล ภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยมีประชาชนและเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการและผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังและพบปะอย่างคึกคักกว่า 4,000 คน

โครงการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพลูกค้าพักชำระหนี้ ระยะที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาหนี้สิน ให้สามารถฟื้นฟูอาชีพ พัฒนาตนเอง เพิ่มพูนรายได้ และลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้หลุดพ้นจากวงจรหนี้สินได้อย่างยั่งยืน โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ คณะของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงินในการขับเคลื่อนโครงการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ข้อมูลจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีเกษตรกรผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจำนวนมาก โดยมีผู้เข้าร่วมแล้วกว่า 343,000 ราย คิดเป็นร้อยละ 94.9 ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด และสำหรับในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดโดยเฉพาะ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 41,800 ราย จากจำนวนผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด 44,154 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีของเกษตรกรในพื้นที่ต่อโครงการพักชำระหนี้และมาตรการฟื้นฟูที่รัฐบาลจัดให้

ธ.ก.ส. ได้เตรียมแผนการอบรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับลูกหนี้ในระยะที่ 2 นี้จำนวน 9,125 ราย โดยตั้งเป้าหมายที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568 ควบคู่ไปกับการอบรม ธ.ก.ส. ยังได้จัดเตรียมสินเชื่อพิเศษเพื่อเป็นทุนสนับสนุนการประกอบอาชีพและการฟื้นฟูของเกษตรกรรายละไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งสามารถขอรับการสนับสนุนได้จนถึงเดือนกันยายน 2569 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนในการเริ่มต้นหรือต่อยอดกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังการพักชำระหนี้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยโครงการพักชำระหนี้และมาตรการฟื้นฟูนี้เป็นกลไกสำคัญในการช่วยให้เกษตรกร ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ สามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาควบคู่ไปกับการฟื้นฟูอาชีพ การเพิ่มรายได้ และการลดต้นทุนให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ ยังจะมีการส่งเสริมระบบน้ำเพื่อการเกษตร การเข้าถึงปุ๋ยราคาถูก รวมถึงสนับสนุนการผลิตปุ๋ยใช้เองในชุมชน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต โดยรัฐบาลจะติดตามการดำเนินงานของโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถเห็นผลสำเร็จที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างแท้จริง

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ คณะยังได้มีกิจกรรมมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ และเงินสนับสนุนแก่โรงเรียนจตุรพักตรพิมานรัชดาภิเษก เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาและพัฒนาเยาวชนในพื้นที่ โดยมีผู้บริหารจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นสถาบันการเงินหลักในการขับเคลื่อนนโยบายทางการเงินเพื่อประชาชน เข้าร่วมในพิธีมอบและร่วมพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *