พิชัยหารือแบงก์ชาติ เตรียมมาตรการอุ้มผู้ส่งออก รับมือภาษีทรัมป์ ยันไม่แทรกแซงดอกเบี้ย
ที่ทำเนียบรัฐบาล (16 เม.ย. 2568) – นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงแนวทางรับมือผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อผู้ส่งออกไทย พร้อมยืนยันไม่แทรกแซงนโยบายดอกเบี้ยก่อนการประชุม กนง. วันที่ 30 เมษายนนี้
การหารือครั้งนี้มีขึ้นเพื่อเตรียมมาตรการดูแลสภาพคล่องให้กับผู้ส่งออกของไทย หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยออกไปอีก 90 วัน โดยนายพิชัยระบุว่า ยังไม่สามารถสรุปมาตรการที่ชัดเจนได้ในขณะนี้ เนื่องจากผลกระทบที่ซับซ้อนจากมาตรการดังกล่าว
“ผลจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าโดยตรงระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังกระทบต่อการค้ากับประเทศอื่นที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีด้วย เราจึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” นายพิชัยกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ว่าการ ธปท. ยืนยันว่าสภาพคล่องในระบบการเงินของไทยยังมีเพียงพอที่จะรองรับความผันผวนในตลาดเงินและตลาดทุน ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 30 เมษายนนี้ จะนำข้อมูลต่างๆ มาประกอบการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป
“เรื่องดอกเบี้ยเราจะไม่พูดถึง แต่สิ่งที่แบงก์ชาติดำเนินการคือติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลต่างๆ ไปประกอบการพิจารณาร่วมกันทั้งค่าเงินบาท เงินเฟ้อ และดอกเบี้ย ไม่มีประเทศไหนที่มีนโยบายแทรกแซงแบงก์ชาติ เรื่องนี้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด” นายพิชัยกล่าว
ในส่วนของความคืบหน้าการออกใบอนุญาตธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) นั้น ธปท. ได้นำเสนอรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติให้กระทรวงการคลังพิจารณาออกใบอนุญาต 3 ราย โดยคาดว่าจะมีการประกาศผู้ได้รับใบอนุญาตภายในกลางปีนี้ และผู้ประกอบการจะต้องเปิดดำเนินธุรกิจในไทยภายใน 1 ปีตามเงื่อนไขที่กำหนด