กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ได้กล่าวในรายการหนึ่งในทำนองว่ารัฐบาลปัจจุบันทำงานหมดสภาพ และอาจนำไปสู่การยึดอำนาจอีกครั้ง รวมถึงการเลือกตั้งใหม่ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง

นายดนุพร กล่าวว่า การแสดงความเห็นเป็นสิทธิ์ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่ทุกคนควรจดจำบทเรียนในอดีตให้ดี โดยเฉพาะเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่นำไปสู่การยึดอำนาจในปี 2557 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศมาแล้ว

โฆษกพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า รัฐบาลปัจจุบันทำงานอย่างหนัก ท่ามกลางบริบททางเศรษฐกิจที่ท้าทายกว่าเมื่อ 10 ปีก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษี หรือปัจจัยอื่นๆ แต่รัฐบาลก็ยังคงทำงานเต็มที่และมีวาระที่จะอยู่ครบ 4 ปี เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามระบอบประชาธิปไตย

“หาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาล ก็ขอให้รออีก 2 ปี จะมีการเลือกตั้งใหม่ นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ดีกว่าการเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะอยู่นานเท่าใด หรือรัฐธรรมนูญอาจถูกฉีกทิ้งและร่างใหม่ ซึ่งปัญหาหลายอย่างทุกวันนี้ก็มาจากรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยรัฐบาลจากการปฏิวัติ ซึ่งยังแก้ไขได้ยาก” นายดนุพร กล่าว

นายดนุพร ยังได้กล่าวถึงประเด็นที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ได้ถูกเลือกให้เข้าร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยชี้ว่า การที่ท่านไม่ถูกเป็นตัวเลือกของใครนั้น ไม่ใช่เรื่องผิด และต้องยอมรับให้ได้ในสังคม การเมืองไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะเป็นที่ต้องการของคนอื่นเสมอไป และนี่ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นความจริงที่ต้องยอมรับและก้าวต่อไป

“เชื่อว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีประสบการณ์ เป็นถึงระดับนายพล จะเข้าใจบริบทของการเมือง และเวลาจะทำให้ท่านใจเย็นลง รวมถึงเข้าใจโลกของความเป็นจริงมากขึ้น” นายดนุพร กล่าวเสริม

เมื่อถูกถามว่า การออกมาพูดของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อาจเป็นเพราะความแค้นส่วนตัวหรือไม่ นายดนุพร มองว่า เป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าพรรคทุกคนอยากร่วมรัฐบาล เพื่อนำนโยบายไปสู่ประชาชน การที่พรรคแกนนำไม่ได้เชิญเข้าร่วม ก็ทำให้ท่านไปไม่ถึงฝัน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหนึ่ง แต่ยืนยันว่า การไม่ได้ถูกเลือกไม่ใช่เรื่องผิด และการเมืองก็เป็นเช่นนี้

โฆษกพรรคเพื่อไทยได้ให้คำแนะนำถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่า สิ่งที่ควรทำคือการเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี 2570 โดยมุ่งเน้นการสร้างพรรคให้มีนโยบายที่ประชาชนเลือก และพยายามเพิ่มจำนวน สส. จากปัจจุบันที่มีเพียง 1 เสียง

“ตอนนี้พรรคของท่านมีแค่ 1 เสียง อาจมองว่าในระบบรัฐสภาหนึ่งเสียงอาจไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีของพรรคร่วมรัฐบาล แต่หากท่านทำให้ 1 เสียง เป็น 5 เสียง 10 เสียง หรือ 15 เสียงได้ คิดว่าท่านอาจจะถูกเพิ่มความสำคัญว่าพรรคนี้เสียงเยอะ เราควรเอามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นโยบายของเขาเหมาะสมที่จะมาร่วมรัฐบาลกันหรือไม่ อยากให้โฟกัสตรงนั้นมากกว่า” นายดนุพร กล่าวย้ำ.