เพื่อไทย กำชับ สส. ลงพื้นที่ช่วงปิดสภาฯ ทำความเข้าใจประชาชน ประเด็นกฎหมาย ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์-นิรโทษกรรม’ สกัดความขัดแย้ง

พรรคเพื่อไทย (พท.) กำชับให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรค เร่งลงพื้นที่พบปะประชาชนในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างความเข้าใจในประเด็นกฎหมายที่ละเอียดอ่อนและอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม เพื่อป้องกันการรวมตัวของมวลชนและการเกิดปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการกำชับของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ได้สั่งการโดยตรงให้ สส. กลับไปยังพื้นที่เลือกตั้งและเขตรับผิดชอบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงที่สภาฯ ปิด

นายดนุพร ระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักคือการรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ ปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะมาถึง หรือปัญหาอื่นๆ ที่ประชาชนในพื้นที่กำลังเผชิญอยู่ นอกจากนี้ ยังได้กำชับรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ประสานงานและลงพื้นที่ร่วมกับ สส. ในจังหวัดต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นพิเศษที่พรรคกำชับให้ สส. ไปทำความเข้าใจกับประชาชน นายดนุพร กล่าวว่า มีหลายเรื่องที่จำเป็นต้องสื่อสาร แต่เรื่องที่ได้รับความสำคัญเป็นพิเศษและพรรคได้เน้นย้ำให้ สส. ไปอธิบายทำความเข้าใจอย่างละเอียด คือ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกกันว่า ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ซึ่งหลายฝ่ายมีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นกาสิโน พรรคจึงต้องการให้ สส. ไปชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านแก่ประชาชน

อีกประเด็นหนึ่งที่มีความสำคัญและละเอียดอ่อนไม่แพ้กัน คือ เรื่องกฎหมาย ‘นิรโทษกรรม’ นายดนุพร กล่าวว่า พรรคมีบทเรียนจากปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับนี้ ดังนั้น การทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับขอบเขต เนื้อหา และสาระสำคัญของกฎหมายนิรโทษกรรมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องและลดความเข้าใจผิด

นายดนุพร ย้ำว่า การที่พรรคต้องกำชับให้ สส. ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจในกฎหมายทั้งสองฉบับนี้อย่างจริงจัง ก็เพราะไม่ต้องการให้ประเด็นเหล่านี้กลายเป็นจุดที่นำไปสู่การรวมตัวของมวลชน หรือก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในเชิงโครงสร้างของประเทศขึ้นมาอีกครั้ง การสื่อสารที่ชัดเจนและถูกต้องจาก สส. จะเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันปัญหาเหล่านี้

เมื่อถามถึงความเห็นต่างภายในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีที่นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เคยแสดงความไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในระหว่างการประชุมสภาฯ ก่อนปิดสมัยประชุม จะส่งผลต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายดนุพร แสดงความเห็นว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบใดๆ

นายดนุพร กล่าวต่อว่า หลังจากที่นายไชยชนก ได้แสดงความเห็นดังกล่าวออกไป นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ได้ออกมาระบุชัดเจนว่า ความเห็นของนายไชยชนก เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้น และเชื่อว่านายอนุทินคงได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับเลขาธิการพรรคแล้ว โดยอาจเป็นเพียงความเห็นต่างในด้านข้อกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการพูดคุยและปรับทำความเข้าใจกันต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *