เพื่อไทย ป้อง ‘ทักษิณ’ ปมชั้น 14 ชี้เป็นเรื่องศาล ยันพร้อมรับการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรม

กรุงเทพฯ – ความเคลื่อนไหวล่าสุดทางการเมืองเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ภายหลังจากที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ตั้งองค์คณะไต่สวนการบังคับโทษจำคุกของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ แทนการไปรับโทษในเรือนจำ

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทางพรรคยังไม่มีการหารือกันอย่างเป็นทางการ แต่ได้พูดคุยกับฝ่ายกฎหมายของพรรคแล้ว โดยมีข้อสรุปว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และพรรคจะไม่เข้าไปแสดงความคิดเห็น เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจถูกมองว่าเป็นการก้าวก่ายอำนาจศาลได้ ดังที่เห็นว่าขณะนี้มีหลายฝ่ายใช้ความเห็นส่วนตัววิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้

นายดนุพร เน้นย้ำว่า “พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล การจะไปวิพากษ์เรื่องศาลหรือควรไม่ควรนั้น เรากลัวจะถูกมองได้ว่าไปก้าวก่ายอำนาจศาลหรือไปดูหมิ่นศาล ฉะนั้น จึงควรว่าไม่อยากเอาเรื่องการเมืองไปกระทบอำนาจศาล”

สำหรับกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการป่วยของนายทักษิณว่าอาจเป็นการ ‘ป่วยทิพย์’ นายดนุพร กล่าวว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของนายรังสิมันต์ แต่หากเรื่องเข้าสู่กระบวนการของศาลแล้ว ศาลย่อมมีวิธีการสืบหาความจริงว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ รักษาโรคอะไรบ้าง ซึ่งเอกสารทางการแพทย์นั้นมีอยู่จริง แต่เป็นเอกสารส่วนบุคคลที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ ดังนั้น เมื่อเรื่องไปถึงขั้นตอนของศาลแล้ว ก็ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวเสริมในประเด็นที่ศาลนัดไต่สวนนายทักษิณในวันที่ 13 มิถุนายน ว่า นายทักษิณพร้อมที่จะรับการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรมในทุกมิติ และน้อมรับคำสั่งของศาล โดยยืนยันว่านายทักษิณไม่ได้อ้างสิทธิพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น

นายอนุสรณ์ ยืนยันว่า กระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และไม่เคยมีการฝ่าฝืนเงื่อนไขของศาล หรือแสดงพฤติกรรมใดที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ส่วนการที่ศาลใช้อำนาจไต่สวนเองนั้น ถือเป็นกระบวนการปกติ ซึ่งทุกฝ่ายควรเคารพและยอมรับ

นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงการรับโทษของนายทักษิณว่า ไม่ว่าจะอยู่ในเรือนจำกี่วันกี่เดือนกี่ปี การปฏิบัติตัวของผู้ต้องขังเป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย และอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ โดยนายทักษิณไม่มีอำนาจในการแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

ในตอนท้าย นายอนุสรณ์ ระบุว่าในสังคมประชาธิปไตย การตรวจสอบเป็นเรื่องปกติและจำเป็น แต่ไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อทำลายล้างทางการเมือง ความเป็นธรรมควรเกิดขึ้นกับทุกฝ่ายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม เมื่อศาลมีคำวินิจฉัย ไม่ว่าผลจะออกมาในทิศทางใด ทุกฝ่ายควรเคารพและยอมรับในกลไกของกระบวนการยุติธรรม ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าอดีตนายกรัฐมนตรีเคารพและให้ความร่วมมือ พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *