รอง ผบ.ตร. เปิดอาคารใหม่ บก.สอท.4 เชียงใหม่ ยกระดับปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีภาคเหนือ
เชียงใหม่ – เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 พลตำรวจเอก กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการแห่งใหม่ของ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 (บก.สอท.4) ณ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและภัยไซเบอร์ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ
พิธีเปิดอาคารแห่งใหม่นี้จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เข้าร่วม อาทิ พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ บช.สอท., พลตำรวจตรี อรรถสิทธิ์ สุดสงวน, พลตำรวจตรี วิวัฒน์ คำชำนาญ, พลตำรวจตรี อรุษ แสงจันทร์ รองผู้บัญชาการ บช.สอท. รวมถึง พลตำรวจตรี กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผู้บังคับการ บก.สอท.4 และผู้บังคับการในสังกัด บช.สอท. พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.สอท.4 เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง
ช่วงเช้าได้เริ่มขึ้นด้วยพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะเข้าสู่ช่วงสำคัญคือพิธีเปิดอาคารอย่างเป็นทางการ โดย พล.ต.อ.กรไชย ได้กดปุ่มเพื่อเปิดผ้าแพรคลุมป้ายชื่ออาคาร บก.สอท.4 แห่งใหม่ พร้อมกับการบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ จากนั้นพระสงฆ์ได้เจริญชัยมงคลคาถา ทำพิธีเจิมป้ายอาคาร และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่สถานที่และผู้ปฏิบัติงาน
กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 (บก.สอท.4) เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสำคัญในการป้องกันปราบปรามและสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งครอบคลุม 17 จังหวัด ทั้งภาคเหนือตอนล่างและภาคเหนือตอนบน โดยจัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาและกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 เพื่อรับมือกับความซับซ้อนของอาชญากรรมในยุคดิจิทัลโดยเฉพาะ
บก.สอท.4 ดำเนินงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเครื่องมือพิเศษในการสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และขับเคลื่อนการทำงานผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ “Thai Police Online” ซึ่งเป็นระบบที่เปิดให้บริการประชาชนแจ้งความคดีออนไลน์ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ริเริ่มขึ้นในสมัย พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังเล็งเห็นความสำคัญของการทำงานเชิงรุก จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดตั้งศูนย์ AOC 1441 ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์ One Stop Service ให้บริการประชาชนในการระงับและอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ได้ทันที รวมถึงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับภัยออนไลน์ต่างๆ
ด้วยพื้นที่รับผิดชอบของ บก.สอท.4 บางส่วนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงรายและจังหวัดตาก จึงได้มีการบูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในการปฏิบัติการ “ซิม สาย เสา” ตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันและยับยั้งการกระทำผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ช่วยเพิ่มความมั่นคงทั้งในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และความมั่นคงของระบบโทรคมนาคม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการรับมือกับอาชญากรรมในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับที่ทำการของ บก.สอท.4 มีการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้ง โดยที่ทำการแรกตั้งอยู่ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ต่อมาย้ายมาที่อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ในปี 2564 ในขณะเดียวกันก็ได้เริ่มเปิดที่ทำการส่วนหน้าในจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะย้ายมาที่อาคารรวงผึ้ง 2 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ และล่าสุดในปี 2568 อาคารที่ทำการแห่งใหม่ ณ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในสมัย พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ บช.สอท.
อาคารที่ทำการแห่งใหม่นี้ได้รับการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ใช้งานอย่างเป็นระบบ แยกส่วนงานต่างๆ อย่างชัดเจน พร้อมทั้งสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้การเข้าถึงและให้บริการประชาชนเป็นไปได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ การมีสถานที่ปฏิบัติงานที่เอื้อต่อการประสานงาน การฝึกอบรม และการบูรณาการกับหน่วยงานอื่น ยังช่วยเสริมสร้างขวัญกำลังใจ ความรัก ความสามัคคี และความเป็นปึกแผ่นภายในหน่วยได้เป็นอย่างดี
พล.ต.อ.กรไชย ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของกำลังพลตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.4 ว่าต้องมีความเสียสละ อุทิศตนด้วยจิตบริการ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีอย่างทันสมัย เพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป