แพทยสภาลงมติเด็ดขาด! สั่งพักใช้ใบอนุญาต 2 แพทย์ ปม ‘ทักษิณ’ ชั้น 14 ชี้ให้ข้อมูลไม่ตรงความจริง

กรุงเทพฯ – ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 มีวาระสำคัญในการพิจารณาผลสรุปการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ กรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม แทน ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา ที่ติดภารกิจต่างประเทศ การประชุมครั้งนี้มีคณะกรรมการเข้าร่วมราว 60 คน จากทั้งหมดประมาณ 70 คน ซึ่งประกอบด้วย คณบดีคณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข และผู้แทนนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลเหล่าทัพ

เวลา 15.40 น. ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ได้แถลงมติที่ประชุมว่า คณะกรรมการแพทยสภาได้มีมติลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้จำนวน 3 ท่าน

• แพทย์ท่านที่ 1: ได้รับการลงโทษว่ากล่าวตักเตือน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน
• แพทย์ท่านที่ 2 และ 3: ได้รับคำสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นว่า มติดังกล่าวเป็นการยืนยันว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริงตามที่มีการกล่าวอ้างก่อนหน้านี้หรือไม่ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ชี้แจงว่า จากข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดที่แพทยสภาได้รับ ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนบ่งชี้ว่ามีภาวะวิกฤต ตามที่มีการแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ ฉะนั้น การตีความจึงขึ้นอยู่กับข้อมูลหลักฐานที่ปรากฏ

เอกสารมติของแพทยสภาที่เผยแพร่ภายหลังการแถลงข่าว ยืนยันเนื้อหาการลงโทษดังกล่าว โดยระบุว่าการพิจารณาคดีจริยธรรมนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และเกี่ยวข้องกับแพทย์จากทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ

ขั้นตอนต่อไปตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 คือ แพทยสภาจะต้องนำเสนอมติดังกล่าวต่อสภานายกพิเศษ ซึ่งปัจจุบันคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอความเห็นชอบก่อนที่จะดำเนินการตามมติที่ประชุมต่อไป

มติครั้งนี้นับเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของแพทยสภา ในการกำกับดูแลจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพแพทย์ ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง.