กรุงเทพฯ – วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดพิธีวันคล้ายวันสถาปนา กทท. ครบรอบ 74 ปี ภายใต้แนวคิด “PORTrait of the future : Sailing to a Greener Tomorrow” สะท้อนภาพท่าเรือในอนาคตที่มีศักยภาพทัดเทียมระดับโลก ควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวในฐานะประธานในพิธีฯ ว่า ตลอด 74 ปีที่ผ่านมา กทท. มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาท่าเรือทั้ง 5 แห่ง เพื่อรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย สอดคล้องกับนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ที่มุ่งให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมในภูมิภาค นอกจากนี้ กทท. ยังให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ ตามแนวทาง ESG แสดงให้เห็นว่า กทท. ไม่เพียงเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ยังสนับสนุนการเติบโตของประเทศและภูมิภาค เชื่อมโยงไทยสู่เศรษฐกิจโลกอย่างแข็งแกร่ง

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาองค์กรที่มุ่งสู่ความสมดุลทั้งด้านโลจิสติกส์ เมือง ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ผ่านหลัก “3 Smart” หรือ “3S” ประกอบด้วย Smart Port มุ่งยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, Smart Commercial พัฒนาพื้นที่หลังท่าเพื่อรองรับธุรกิจเกี่ยวเนื่องและยกระดับเป็นย่านเศรษฐกิจใหม่ใจกลางเมือง และ Smart Community พัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้เติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาท่าเรือ

ในด้านผลประกอบการ นายเกรียงไกร กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา กทท. มีรายได้รวมสูงสุดถึง 17,224 ล้านบาท นับเป็นสถิติใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และมีกำไรสุทธิสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 7,648 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งองค์กร สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568) ก็ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิ 3,500 ล้านบาท มีเรือเทียบท่าเพิ่มขึ้น 1.95%, สินค้าผ่านท่าเพิ่มขึ้น 5.10% และตู้สินค้าผ่านท่าเพิ่มขึ้น 5.35% ท่าเรือระนองและท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนก็มีแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการดำเนินโครงการพัฒนาที่สำคัญ กทท. กำลังเร่งผลักดันโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ส่วนที่ 1 ซึ่งคืบหน้าแล้วกว่า 68.30% ณ เดือนพฤษภาคม 2568 ส่วนที่ 2, 3 และ 4 ก็กำลังเร่งดำเนินการให้สอดคล้องกันทั้งระบบ นอกจากนี้ โครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ได้กำหนดให้จังหวัดขอนแก่นเป็นพื้นที่นำร่องตามแผนแม่บทของ สนข. เนื่องจากมีความพร้อมทั้งด้านทำเลที่ตั้งและการสนับสนุนจากประชาชน ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น นครราชสีมา, นครสวรรค์, อยุธยา (สถานีภาชี) และราชบุรี (สถานีหนองปลาดุก) อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายผลในอนาคต

นอกจากความสำเร็จด้านธุรกิจ กทท. ยังตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการพัฒนาเยาวชน สร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน และมุ่งมั่นสู่การเป็นท่าเรือสีเขียวผ่านยุทธศาสตร์ 2D ได้แก่ Digitalization และ Decarbonization เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero Emission ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ และพัฒนาองค์กรให้ทันสมัย โดยยึดหลักค่านิยมองค์กร SMART-PAT ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี คุณภาพชีวิตชุมชน และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อการเติบโตที่สมดุลและยั่งยืน

ในโอกาสนี้ กทท. ได้มอบเงินสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลรวม 1,834,482 บาท ให้แก่ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ วัดคลองเตยใน และองค์กรอื่นๆ พร้อมมอบรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรติพนักงานดีเด่นและพนักงานที่ปฏิบัติงานมาเป็นเวลานาน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและแทนคำขอบคุณในการร่วมขับเคลื่อนองค์กร โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม กรรมการ กทท. ผู้บริหารและพนักงาน ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้ใช้บริการ ชุมชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธี ณ อาคาร PAT Arena อย่างคับคั่ง