วุ่นกลางอากาศ! ผู้โดยสารคลั่งกัดพนักงานต้อนรับฯ บนเครื่องบิน ดีเลย์ระนาว 3 ชั่วโมง
รายงานจากสื่อต่างประเทศเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เปิดเผยถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายบนเที่ยวบินหนึ่ง ซึ่งผู้โดยสารชายรายหนึ่งมีพฤติกรรมคลุ้มคลั่ง ก่อความเดือดร้อนและปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของลูกเรือ ถึงขั้นทำร้ายร่างกายด้วยการกัดพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ส่งผลให้เที่ยวบินดังกล่าวต้องดีเลย์ออกไปนานกว่า 3 ชั่วโมง
เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา บนเที่ยวบินที่เตรียมออกเดินทางจากเมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น มุ่งหน้าสู่เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน ตามรายงานระบุว่า หลังผู้โดยสารขึ้นเครื่องบินได้ไม่นาน ผู้ก่อเหตุชายที่ไม่เปิดเผยชื่อรายนี้ได้เริ่มก่อความวุ่นวาย มีพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรงและปฏิเสธที่จะนั่งลงตามคำแนะนำของลูกเรือ อีกทั้งยังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสารคนอื่นๆ บนเครื่องอีกด้วย
เมื่อพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินพยายามเข้าเกลี้ยกล่อมและทำให้ชายคนดังกล่าวสงบลง เหตุการณ์กลับบานปลาย เมื่อผู้ก่อเหตุได้จู่โจมพนักงานต้อนรับด้วยการกัดเข้าที่ร่างกายของลูกเรือรายหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่รุนแรงและเป็นอันตราย ภาพเหตุการณ์ความวุ่นวายทั้งหมดนี้ถูกบันทึกไว้ได้โดยผู้โดยสารรายหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยในคลิปจะเห็นเจ้าหน้าที่กำลังพยายามควบคุมตัวชายคนดังกล่าว
จากคลิปภาพที่เผยแพร่ เห็นเจ้าหน้าที่หลายนายกำลังเดินเข้าประชิดตัวชายผู้ก่อเหตุ และดูเหมือนจะช่วยกันจับที่แขนและขาของเขาเพื่อตรึงไว้ ในภาพจากคลิปดังกล่าวเห็นเพียงช่วงหน้าแข้งของผู้โดยสารรายนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์
ในระหว่างที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นบนเครื่องบิน นักบินได้ทำการติดต่อประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจของสนามบินทันที เพื่อขอความช่วยเหลือในการนำตัวผู้โดยสารที่คลุ้มคลั่งรายนี้ลงจากเครื่องบิน หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกเรือและสร้างความปั่นป่วน การดำเนินการดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อตารางการบิน ทำให้เที่ยวบินนี้ต้องล่าช้าออกไปอย่างมาก
ตามกำหนดเดิม เที่ยวบินดังกล่าวมีกำหนดออกเดินทางจากสนามบินในซัปโปโร ฮอกไกโด ในเวลาประมาณ 16.25 น. ของวันที่ 17 เมษายน แต่เนื่องจากเหตุการณ์นี้ ทำให้เที่ยวบินต้องชะงักงันและไม่สามารถออกเดินทางได้ตามเวลาที่กำหนด สุดท้ายแล้ว เที่ยวบินนี้จึงพร้อมที่จะออกเดินทางอีกครั้งในเวลาประมาณ 19.30 น. เพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามบินนานาชาติไทเปเถาหยวนในประเทศไต้หวัน ซึ่งหมายถึงความล่าช้าไปถึง 3 ชั่วโมง 5 นาที
นักบินได้ชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้โดยสารคนอื่นๆ บนเครื่องรับทราบ โดยอธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องระงับการออกเดินทางเพื่อรอการเข้าดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางอากาศของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานยืนยันว่า ชายผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวหลังถูกนำตัวลงจากเครื่องบินหรือไม่
เหตุการณ์ผู้โดยสารทำร้ายร่างกายลูกเรือโดยการกัดไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น มีรายงานจากสื่อต่างประเทศระบุว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว เที่ยวบินจากโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องถูกบังคับให้บินกลับ เนื่องจากมีผู้โดยสารที่มีอาการมึนเมาเข้าทำร้ายและกัดแขนพนักงานต้อนรับหญิง หรืออีกเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งผู้โดยสารกัดเข้าที่เสื้อของพนักงานต้อนรับระหว่างการทะเลาะวิวาท จนทำให้เครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉิน เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่บุคลากรทางการบินต้องเผชิญในการดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบนเครื่อง