สส.ปชน. แฉงบสภาฯ พิสดาร! เล็ง 100 ล้านวาดภาพฝาผนัง-ผลาญ 100 ล้านออกแบบที่จอดรถใต้ดินทั้งที่ยังไม่มีงบสร้าง
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นายภัณฑิล น่วมเจิม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน (ปชน.) ได้ออกมาเปิดเผยและตั้งข้อสงสัยอย่างรุนแรงต่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา โดยระบุว่าพบการของบประมาณในรายการต่างๆ ที่น่ากังขาเป็นจำนวนมาก มูลค่ารวมเกือบ 1 พันล้านบาท
นายภัณฑิล กล่าวว่า การของบประมาณหลายรายการดูเหมือนจะมีเจตนาไม่ค่อยดี หรือในภาษาชาวบ้านเรียกว่าเป็นการ “แปรงบเข้าตัวเอง” ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติไม่ควรแทรกแซงการใช้งบประมาณเช่นนี้ แต่ก็มีการพยายามแปรงบเข้ามาสู่ฝ่ายนิติบัญญัติค่อนข้างเยอะ
หนึ่งในรายการที่สร้างความประหลาดใจอย่างมาก คือการขอจัดสรรงบประมาณเพื่อทำจิตรกรรมฝาผนังบริเวณหลังบัลลังก์ประธานสภา ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นพื้นที่ว่าง โดยมีการของบสูงถึง 100 ล้านบาทเพื่อการนี้ โชคดีที่รายการนี้ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะใช้งบประมาณในลักษณะที่ดูแล้วไม่จำเป็นเร่งด่วน
นอกจากนี้ ยังมีการของบสำหรับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) จำนวนมากและหลายรายการซ้ำซ้อนกัน เช่น ระบบแชทบอต และระบบการเรียนรู้ (Learning System) ต่างๆ ซึ่งนายภัณฑิลเองในฐานะ สส. ก็ไม่เคยได้ใช้ระบบเหล่านี้ ทำให้เกิดคำถามถึงประโยชน์และความคุ้มค่าในการลงทุน
สำหรับโครงการพิพิธภัณฑ์รัฐสภา ที่ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงงบประมาณ 120 ล้านบาท นายภัณฑิล ชี้แจงว่าเป็นงบประมาณภาพรวมทั้งหมด ซึ่งบางส่วนมีการดำเนินการไปแล้วแต่ยังไม่เสร็จสิ้นและยังไม่มีการใช้งานจริง โดยนายภัณฑิลเปรียบเปรยว่าเป็นเหมือน “สุสาน” ที่อยู่ใต้สภา ไม่มีคนใช้ แต่กลับจะมีการของบประมาณเพิ่มเติมอีก คำถามคือ หากยังทำแบบเดิมแต่คาดหวังผลใหม่ มันก็เป็นไปไม่ได้ และเป็นการเสียเงินไปแล้วจำนวนมากโดยเปล่าประโยชน์
ประเด็นที่นายภัณฑิลให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือโครงการก่อสร้างที่จอดรถใต้ดินบริเวณสนามหญ้าหน้าอาคารรัฐสภา ซึ่งผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในหลักการแล้วด้วยงบประมาณสูงถึง 4 พันล้านบาท แต่ถูกระงับไว้ อย่างไรก็ตาม แม้โครงการหลักจะยังไม่มีงบประมาณก่อสร้าง แต่นายภัณฑิลพบว่ามีการประกวดเอกสารประกวดราคา (TOR) เพื่อออกแบบก่อสร้างไปแล้ว และค่าออกแบบก่อสร้างนี้ก็ใช้งบประมาณเป็นหลัก 100 ล้านบาท ซึ่งดึงมาจาก “งบกลางฝ่ายนิติบัญญัติ” ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งเป็นงบที่ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร
นายภัณฑิล มองว่า การใช้งบ 100 ล้านบาทเพื่อออกแบบโครงการที่ยังไม่รู้ว่าจะได้สร้างเมื่อไร หรือไม่มีงบประมาณก่อสร้างที่ชัดเจน เป็นการ “ผลาญเงินทิ้งไป” อย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่ควรจะต้องสรุปให้ได้ว่าจะทำโครงการนี้หรือไม่ และมีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ ก่อนที่จะไปเสียเงินค่าออกแบบจำนวนมหาศาล
นายภัณฑิล ยังได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่จอดรถสภาที่ไม่เพียงพอ โดยไม่ต้องพึ่งพาการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น การส่งเสริมให้ สส. สว. และบุคลากรใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น เนื่องจากในอนาคตจะมีรถไฟฟ้ามาถึงหน้ารัฐสภา หรืออาจขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการใกล้เคียงเพื่อใช้พื้นที่จอดรถ หรือจัดรถชัทเทิลบัสจากสถานีรถไฟฟ้า MRT บางโพ มายังรัฐสภา ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาได้บางส่วน
ในส่วนของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา นายภัณฑิล กล่าวถึงกรณีที่ตนระบุว่ามีการของบประมาณ 2.3 ล้านบาท เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ไปเรียนภาษาจีนเพิ่มเติม ซึ่งรายการนี้ก็เป็นเพียงคำขอและไม่ได้รับการจัดสรรเช่นกัน แต่นายภัณฑิลก็ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเรื่องที่แปลกที่กล้าขอ เพราะการเรียนภาษาจีนไม่ใช่ภารกิจหลักของ สว. หากเป็นการขอให้เจ้าหน้าที่สภาไปเรียนเพื่อใช้ในการประสานงาน หรือทำหน้าที่ล่าม ยังพอเข้าใจได้ ซึ่งรายการลักษณะนี้ไม่ควรได้รับการจัดสรรในอนาคต
นายภัณฑิล ย้ำว่า เรื่องทั้งหมดนี้ต้องรอติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 ที่คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ และขอให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ในการชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ต่อไป