ตรัง – เรื่องราวสุดสะเทือนใจเกิดขึ้นในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งที่จังหวัดตรัง เมื่อเด็กชายวัยเพียง 6 ขวบ กลายเป็นเหยื่อความรุนแรง ถูกผู้ปกครองของเด็กคนอื่นทำร้ายร่างกายอย่างอุกอาจด้วยการ ‘โดดถีบหน้า’ เพียงเพราะไม่พอใจที่เด็กเล่นกับลูกตนเองแล้วเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย ทำให้ลูกเป็นแผลถลอก เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพจิตใจของเด็ก ทำให้หวาดผวา ไม่กล้าไปโรงเรียน ขณะที่ผู้เป็นแม่ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ภายในบริเวณโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ตามรายงานระบุว่า ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็กอีกคน ได้แสดงความไม่พอใจและบันดาลโทสะเข้าทำร้ายร่างกายเด็กชายวัย 6 ขวบ ด้วยการกระโดดถีบเข้าที่ใบหน้าอย่างรุนแรง ซึ่งถือเป็นการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุอย่างมาก แม้สาเหตุจะมาจากความไม่พอใจที่ลูกของตนเองได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการเล่นกับเด็กชายผู้เคราะห์ร้าย

หลังเกิดเหตุ ผู้ปกครองของเด็กชายวัย 6 ขวบไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมาย

ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ไม่ได้มีเพียงร่องรอยทางกายภาพที่บริเวณลำคอและรอยแดงฟกช้ำที่ยังคงปรากฏให้เห็น แต่ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือบาดแผลทางจิตใจของผู้เสียหาย ผู้ปกครองของเด็กชายเปิดเผยด้วยความกังวลว่า สภาพจิตใจของลูกตอนนี้ยังอยู่ในขั้นย่ำแย่มาก ตลอด 2-3 คืนที่ผ่านมา น้องมักจะสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกพร้อมกับร้องไห้ด้วยความหวาดผวา กลัวผู้ชายที่มีลักษณะคล้ายผู้ก่อเหตุ ไม่กล้าที่จะกลับไปโรงเรียน และไม่กล้ามองหน้าใคร กลายเป็นเด็กที่เงียบขรึมและหวาดกลัวไปโดยสิ้นเชิง

ผู้ปกครองเด็กยังกล่าวอีกว่า ลูกชายกำลังจะเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในหลักสูตรปรับพื้นฐาน แต่ตนเองยังไม่กล้าที่จะส่งลูกไปเรียน เนื่องจากยังคงมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันซ้ำรอย หากต้องเผชิญหน้ากับผู้ก่อเหตุอีกครั้งในบริเวณโรงเรียน จึงได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง เร่งรัดดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพื่อให้เรื่องนี้เป็นกรณีตัวอย่างและป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ความรุนแรงในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับเด็กคนอื่น ๆ อีกในอนาคต

ขณะเดียวกัน ทางด้านกระทรวงศึกษาธิการ โดยนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้กำชับให้มีการทบทวนและปรับปรุงระบบการรับ-ส่งนักเรียนให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดให้ผู้ปกครองสามารถรับ-ส่งเด็กได้บริเวณหน้าประตูโรงเรียนเท่านั้น ไม่อนุญาตให้เข้ามาภายในบริเวณโรงเรียน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียนและผู้ปกครองคนอื่น ๆ

นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่แสดงความเป็นห่วงและให้กำลังใจครอบครัวของเด็กชายผู้เคราะห์ร้าย โดยล่าสุด นายจำนงค์ นาวาแก้ว อดีตกำนันตำบลบ้านควน อำเภอเมืองตรัง ได้ติดต่อประสานงานเพื่อมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 10,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับครอบครัวและเด็กชายวัย 6 ขวบ ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจนี้

เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรั้วโรงเรียน ซึ่งควรเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาด้านความปลอดภัยและการควบคุมดูแลที่ยังคงต้องได้รับการปรับปรุงอย่างเร่งด่วน รวมถึงเป็นอุทาหรณ์เตือนใจถึงการใช้อารมณ์และการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงแล้ว ยังสร้างความหวาดกลัวและความไม่ปลอดภัยให้กับสังคมโดยรวม โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชนผู้บริสุทธิ์