นายกฯ ‘แพทองธาร’ ยัน 2 บิ๊กเอกชนต่างชาติ สนใจลงทุน ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ในไทย ชี้เห็นโอกาสจากญี่ปุ่น

นายกฯ ‘แพทองธาร’ ยัน 2 บิ๊กเอกชนต่างชาติ สนใจลงทุน ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ในไทย ชี้เห็นโอกาสจากญี่ปุ่น

ทำเนียบรัฐบาล, 20 พฤษภาคม 2568 – น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ณ ทำเนียบรัฐบาล ถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักธุรกิจและตัวแทนจากภาคเอกชนรายใหญ่ถึง 2 ราย ได้เข้ามาแสดงความสนใจในการลงทุนในโครงการดังกล่าวอย่างจริงจัง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความน่าดึงดูดของประเทศไทยในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เอกชนทั้งสองรายนี้มองเห็นโอกาสจากการที่ประเทศไทยไม่ได้มีระยะทางไกลจากประเทศญี่ปุ่นมากนัก และยังเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียเช่นเดียวกัน โดยพวกเขาทราบถึงความเคลื่อนไหวของประเทศญี่ปุ่นที่มีแผนการพัฒนาพื้นที่จัดงาน World Expo ที่เมืองโอซาก้า ให้เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่หลังจากการจัดงานเสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 2025 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาประมาณ 5 ปี

นายกรัฐมนตรีระบุว่า เมื่อเอกชนเหล่านั้นเห็นว่าประเทศไทยกำลังผลักดันโครงการในลักษณะเดียวกัน และมองเห็นแนวโน้มที่ชัดเจนในระดับภูมิภาค จึงทำให้เกิดความสนใจและอยากเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในประเทศไทยต่อไปในอนาคต

“ความจริงเป็นเรื่องที่เขามาแสดงความสนใจว่า ประเทศไทยไม่ได้ไกลจากประเทศญี่ปุ่นมาก และเป็นประเทศเอเชียเหมือนกันด้วย รวมถึงเห็นว่าประเทศญี่ปุ่นเริ่มแล้วมีแพลนชัดเจนแล้วว่า เมื่อเสร็จสิ้นการจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป ที่เมืองโอซาก้า จะใช้พื้นที่ดังกล่าวทำเป็น เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยจะเสร็จภายใน 5 ปี ทั้งนี้ เขาเห็นเราผลักดันเรื่องนี้ เห็นเป็นโอกาสจึงอยากจะเข้ามาเพื่อดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต” นายกรัฐมนตรีกล่าว

การที่เอกชนรายใหญ่ระดับนานาชาติแสดงความสนใจในการลงทุนในโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของไทย ถือเป็นสัญญาณที่ดีอย่างยิ่งที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมถึงนโยบายและวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและความบันเทิงระดับโลก

โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นี้คาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างงาน สร้างรายได้ และดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้าสู่ประเทศจำนวนมาก หากได้รับการพัฒนาและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

รัฐบาลยืนยันที่จะเดินหน้าผลักดันโครงการนี้อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชนในระยะยาว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *