กรุงเทพมหานคร – เมื่อเวลา 09.40 น. ของวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ณ บริเวณท้องสนามหลวง ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2568 บรรยากาศที่เต็มไปด้วยสื่อมวลชนที่รอติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองกลับต้องพบกับเหตุการณ์ที่น่าสนใจ เมื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่รอสอบถามในประเด็นร้อนเกี่ยวกับมติของแพทยสภาที่สั่งลงโทษแพทย์ 3 คน ซึ่งเชื่อมโยงกับกรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ

โดยนางสาวแพทองธาร ในชุดปกติขาว ได้ใช้มือทั้งสองข้างจับชายเสื้อด้านล่าง พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า “ชุดขาว” ก่อนหันไปสอบถามนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ข้างๆ ว่าใส่ชุดขาวให้สัมภาษณ์ไม่ได้ใช่หรือไม่ พร้อมส่งยิ้มให้กับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินทางขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับทันที เป็นอันว่าประเด็นร้อนเรื่องแพทยสภาและนายทักษิณยังคงไร้คำตอบจากผู้นำรัฐบาล

ในส่วนของพรรคเพื่อไทย นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า เป็นเรื่องของแพทยสภาโดยตรง ไม่ควรนำมาเชื่อมโยงกับเรื่องการเมือง พร้อมย้ำว่าประเด็นของนายทักษิณนั้นควรเป็นไปตามกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลายฝ่ายจับตามองว่าเรื่องนี้จะทำให้อุณหภูมิทางการเมืองร้อนแรงขึ้นหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบกลับว่า ความร้อนแรงของประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชนเอง พร้อมยืนยันว่าในมุมของตน ไม่มีอะไร ทุกอย่างดำเนินไปตามกระบวนการที่เป็นอยู่

ต่อข้อซักถามที่ว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลให้การทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันสะดุดลงหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวอย่างชัดเจนว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน พร้อมให้เหตุผลว่า รัฐบาลชุดนี้ที่นำโดยนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้เข้ามารับตำแหน่งหลังจากที่นายทักษิณได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นคนละส่วนกัน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่ศาลฎีกายกคำร้องของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศไปยังประเทศกาตาร์ นายสรวงศ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า นายทักษิณได้ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการยื่นคำร้องขออนุญาต แต่เมื่อศาลไม่อนุมัติ ก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งของศาล

เหตุการณ์การเลี่ยงสื่อของนายกรัฐมนตรี และคำชี้แจงของเลขาธิการพรรคเพื่อไทย สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะแยกประเด็นส่วนตัวของอดีตผู้นำออกจากประเด็นทางการเมืองและการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน ท่ามกลางสายตาจับจ้องจากสาธารณชนต่อกรณีมติของแพทยสภาและสถานะของนายทักษิณ