สะเทือนขวัญ! คนร้ายดักยิงเผา อส.บันนังสตา เสียชีวิตคาที่ ใกล้ฐานปฏิบัติการ จ.ยะลา

ยะลา – เกิดเหตุสุดสะเทือนขวัญในพื้นที่จังหวัดยะลา เมื่อสมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) อำเภอบันนังสตา ถูกคนร้ายดักซุ่มยิงและจุดไฟเผารถพร้อมร่างเสียชีวิต ขณะกำลังเดินทางไปซื้อของที่ร้านค้าใกล้ฐานปฏิบัติการ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังเร่งตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามดักยิง ม.อ.ธีรวุฒิ พุทธรัตน์ อายุ 34 ปี สมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) สังกัดอำเภอบันนังสตา จนถึงแก่ชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านขายของชำ ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 สายยะลา – บันนังสตา ในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ก่อนที่คนร้ายจะจุดไฟเผารถยนต์เก๋งที่ผู้เสียชีวิตขับมาพร้อมร่างผู้เสียชีวิตทันที เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 27 เมษายน ต่อเนื่องเช้าวันที่ 28 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 28 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ประกอบด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้เข้าปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านขายของชำดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) และเจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา เข้าทำการตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด

จากการตรวจสอบและสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ม.อ.ธีรวุฒิ พุทธรัตน์ ผู้เสียชีวิต ได้ขับรถยนต์เก๋งส่วนตัวออกจากฐานปฏิบัติการในพื้นที่ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เพื่อเดินทางไปซื้อของที่ร้านขายของชำ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการเพียงประมาณ 300 เมตรเท่านั้น

ขณะที่ผู้เสียชีวิตเดินทางมาถึงบริเวณหน้าร้านและกำลังจะลงจากรถยนต์ คนร้ายซึ่งคาดว่าได้เข้ามาดักซุ่มรออยู่ในป่ารกทึบซึ่งอยู่ตรงข้ามกับหน้าร้าน ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ผู้เสียชีวิตทันที

จากการตรวจสอบสภาพรถยนต์เก๋งของผู้เสียชีวิต พบร่องรอยความเสียหายจากกระสุนปืนจำนวนหลายนัดบริเวณประตูรถยนต์ด้านข้างฝั่งผู้โดยสารที่อยู่ด้านหลังคนขับ ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าคนร้ายได้กราดยิงเข้าใส่รถ ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุสุดโหดเหี้ยมด้วยการจุดไฟเผารถยนต์ทั้งคันในทันทีที่สังหารผู้เสียชีวิตได้สำเร็จ ก่อนจะอาศัยความมืดและความชุลมุนหลบหนีไป

บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นหน้าร้านขายของชำนั้น เป็นร้านที่เปิดทำการค้าขายตามปกติทุกวันไปจนถึงช่วงเวลาประมาณ 02.00-03.00 น. และจากการตรวจสอบในพื้นที่ เจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณเสาไฟฟ้าส่องสว่างที่อยู่ห่างจากร้านไปไม่ถึง 20 เมตร มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้สอบถามจากผู้เกี่ยวข้องทราบว่า กล้องวงจรปิดตัวดังกล่าวนั้นไม่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุไว้ได้ เนื่องจากตัวกล้องได้หันไปในทิศทางอื่น ไม่ได้จับภาพมายังจุดที่เกิดเหตุ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนติดตามคนร้าย

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังเร่งทำงานอย่างหนักในการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งในที่เกิดเหตุ และจากการสอบปากคำพยานแวดล้อม เพื่อหาเบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่อุกอาจและโหดเหี้ยม เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณข้อมูล: YalaToDay ยะลาทูเดย์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *