จากกรณีที่ สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า นาบิล อานาน นักมวยไทยชื่อดัง ดีกรีแชมป์โลก มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต เฉพาะกาล ของ วัน แชมเปียนชิพ ได้ตอบรับการทาบทามเพื่อเข้าร่วมทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย เพื่อเตรียมพร้อมสู้ศึกซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ และต่อยอดความหวังสู่การลุ้นเหรียญในโอลิมปิกเกมส์ 2028 ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา

ล่าสุด ความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ได้ถูกชี้แจงโดยตรงจากผู้บริหารระดับสูงของ วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย โดยทางด้าน "บิ๊กปลาย" จิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย ได้ออกมายืนยันอย่างชัดเจนและปฏิเสธข่าวที่แพร่หลายไปก่อนหน้านี้

บิ๊กปลาย เผยว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดย นาบิล อานาน ไม่ได้ตอบตกลง ตามที่มีการเสนอข่าวออกไปแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางองค์กร วัน แชมเปียนชิพ ก็ยังไม่ได้อนุญาตให้นักกีฬาในสังกัดไปเข้าร่วมการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นให้กับทีมชาติไทยตามที่เป็นกระแสข่าว อีกทั้งยังได้ระบุว่า ทาง สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ไม่เคยมีการติดต่อเข้ามาพูดคุยเรื่องนี้กับทาง วัน แชมเปียนชิพ เลย

ในมุมมองส่วนตัวของ บิ๊กปลาย เขามองว่า การที่นักมวยอาชีพที่กำลังมีผลงานโดดเด่น จะกลับไปชกในระดับสมัครเล่นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และเห็นว่าจะเป็นการดีกว่าหาก สมาคมฯ จะมุ่งเน้นการพัฒนานักกีฬาที่มาจากพื้นฐานมวยสากลสมัครเล่นโดยตรง เพื่อสร้างความสำเร็จในระดับโอลิมปิก ซึ่งจะมีความสวยงามและน่าชื่นชมมากกว่า

เกี่ยวกับประเด็นการฟ้องร้องต้นทางที่ปล่อยข่าวในครั้งนี้ บิ๊กปลาย กล่าวว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบว่าแหล่งข่าวต้นทางนั้นมาจากกลุ่มเว็บพนันจริงหรือไม่ ซึ่งจะต้องพิจารณาข้อมูลอย่างละเอียด หากพบว่ามีการเขียนข่าวโดยมีเจตนาที่ไม่ดี หรือสร้างความเสียหาย ก็อาจพิจารณาใช้มาตรการทางกฎหมาย หรือการฟ้องร้องต่อไป ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกที่กำลังมองอยู่

บิ๊กปลาย ยังได้กล่าวถึงกรณีอื่นๆ หาก สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ต้องการทาบทามนักชกรายอื่น ๆ ในสังกัด วัน แชมเปียนชิพ ไปช่วยทีมชาติในระดับสมัครเล่นว่า จะต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป แต่โดยทั่วไปแล้ว ทาง วัน แชมเปียนชิพ มักจะไม่ค่อยอนุญาตให้นักกีฬาในสังกัดไปแข่งขันในรายการอื่น ๆ นอกจากรายการของตนเอง ซึ่งสัญญาที่นักกีฬามืออาชีพเซ็นกับ วัน แชมเปียนชิพ นั้นโดยส่วนใหญ่ก็มีข้อจำกัดไม่ให้ไปแข่งขันในรายการอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสัญญา อีกทั้งนักกีฬาในสังกัด วัน แชมเปียนชิพ ก็มีรายได้ที่มั่นคงในระดับที่สูงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปชกในระดับสมัครเล่นเพื่อหวังรายได้

ในท้ายที่สุด บิ๊กปลาย ได้เปรียบเทียบระหว่างการเล่นให้กับทีมชาติกับการชกในสังกัด วัน แชมเปียนชิพ ว่ามีความมั่นคงและโอกาสในการเติบโตที่แตกต่างกัน โดย วัน แชมเปียนชิพ สามารถทำให้นักกีฬาประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว มีรายได้ที่มากกว่าอย่างมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น รถถัง จิตรเมืองนนท์ ที่มีรายได้จากการชกเพียงไฟต์เดียวสูงถึง 14 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก เมื่อเทียบกับการชกในระดับสมัครเล่น วัน แชมเปียนชิพ มีรายการมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งที่เป็นอันดับ 1 ของโลก มีฐานแฟนคลับและการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ทำให้สามารถสร้างนักกีฬาโนเนมให้ก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น เมื่อเทียบในเรื่องของความมั่นคง โอกาสในการเติบโต และการสร้างชื่อเสียงระดับโลก ทาง วัน แชมเปียนชิพ ถือว่ามีภาษีดีกว่ามาก