กรุงเทพฯ – คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประชุมคณะกรรมการบริหารครั้งแรกประจำปี 2568 นำโดย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการฯ โดยมีมติสำคัญแต่งตั้ง ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา นายกสมาคมกีฬาเคิร์ลลิ่งแห่งประเทศไทยฯ เข้าดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ แทน นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลฯ ที่แจ้งขอไม่รับตำแหน่งเนื่องจากภารกิจสำคัญ

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ห้องประชุม 1 คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ บ้านอัมพวัน ถนนศรีอยุธยา ถือเป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ประจำปี 2568-2571 หลังจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนเริ่มการประชุม ประธานและคณะกรรมการได้ร่วมกันสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบ้านอัมพวันเพื่อความเป็นสิริมงคล

วาระสำคัญในการประชุม รวมถึงการแจ้งแนวทางการทำงานของคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ที่จะเน้นการทำงานเชิงรุก เป็นศูนย์กลางและที่พึ่งให้กับสมาคมกีฬาต่างๆ ทั้งกีฬาฤดูร้อนและฤดูหนาว เพื่อยกระดับผลงานนักกีฬาไทยในเวทีนานาชาติ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานการสรุปผลการเลือกตั้งและการชี้แจงต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ซึ่งเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยไอโอซีได้อัพเดตข้อมูลของโอลิมปิคไทยในเว็บไซต์เป็นที่เรียบร้อย

อีกหนึ่งมติที่สำคัญคือการรับรอง นายเทวินทร์ หาญปราบ ทำหน้าที่ตัวแทนนักกีฬาโอลิมปิกในคณะกรรมการบริหารโอลิมปิคฯ แทน นายชนาธิป ซ้อนขำ ที่หมดคุณสมบัติ

ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ในพื้นที่กรุงเทพฯ, ชลบุรี และสงขลา ซึ่งขณะนี้การดำเนินงานต่างๆ มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องหนังสือเชิญไปยังประเทศต่างๆ และ Technical Handbook ที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมทั้งความพร้อมด้านสนามแข่งขัน, สนามฝึกซ้อม, ที่พักนักกีฬา และโลโก้-มาสคอต ส่วนงบประมาณจัดการแข่งขันเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการยื่นขอจากงบกลางปี 2569 ต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีการรายงานความก้าวหน้าการเตรียมทีมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน ในเดือนตุลาคม 2568 และการแต่งตั้งคณะกรรมการมูลนิธิโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ชุดใหม่

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการฯ กล่าวเน้นย้ำว่า คณะกรรมการชุดใหม่พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ โดยจากนี้ไปจะเน้นการทำงานแบบทีมและเชิงรุก ต้องมีผลงานที่เป็นรูปธรรม และเป็นที่พึ่งของวงการกีฬาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ปลายปีนี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกประมาณ 7 เดือน จะต้องเตรียมการให้ดีที่สุด เพื่อให้เป็นซีเกมส์ที่สร้างความประทับใจแก่นักกีฬาทุกชาติที่มาร่วมแข่งขัน และจะต้องพยายามคว้าเหรียญทองให้ได้มากที่สุดเพื่อเป้าหมายการเป็นเจ้าเหรียญทองในครั้งนี้