พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เปิดเผยถึงปัญหาสุขภาพล่าสุดเกี่ยวกับ “ประสาทหู” ที่กำลังเผชิญอยู่ พร้อมเตือนภัยประชาชนถึงกรณีที่มิจฉาชีพนำภาพของตนไปตัดต่อเพื่อหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ทั้งการอ้างว่าถูกจับ หรือนำไปใช้โฆษณาสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

คุณหนุ่ม กรรชัย ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ในงานประกาศรางวัล ‘คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21’ โดยกล่าวถึงปัญหาสุขภาพหูว่า ได้ไปปรึกษาคุณหมอมาเมื่อ 2-3 วันก่อน และคุณหมอบอกว่ามันเป็นโรคเกี่ยวกับประสาทหูชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอาการรับเสียงเร็วเกินไป โดยเฉพาะเสียงที่มีคลื่นความถี่สูงอย่างเสียงผู้หญิง ทำให้เสียงที่ได้ยินเหมือนลำโพงแตก

“เวลาเสียงผู้หญิงพูดมันจะเข้าแล้วดัง เสียงพี่หมวยเป็นแล้วก็เสียงคนอื่นมีเป็นบ้าง บางทียกโทรศัพท์ขึ้นมาเสียงบางคนที่คุยมันเหมือนกับลำโพงแตก ก็ต้องเปลี่ยนหูมาข้างนี้หรือไม่ก็เปิด Speakerphone คุย” คุณหนุ่มกล่าว พร้อมเสริมว่าเสียงคนที่มีเสียงแหบอย่างมดดำจะไม่เป็น เพราะเป็นคนละคลื่นความถี่

สำหรับแนวทางการรักษา คุณหมอแนะนำให้ทานยาเพื่อช่วยให้เลือดไปหล่อเลี้ยงที่ประสาทหู และที่สำคัญคือให้ไปฟังเสียงทีวีที่เคยมีตอนจบรายการสมัยก่อน ซึ่งเป็นเสียงคลื่นความถี่เฉพาะ ส่วนคำถามว่าจะหายขาดหรือไม่ หรือถึงขั้นต้องผ่าตัด คุณหมอยังไม่ได้ยืนยันว่าจะหายขาด เป็นการรักษาและบำบัดไปเรื่อยๆ ซึ่งอาการนี้เป็นมาประมาณ 7-8 เดือนแล้ว คุณหนุ่มยอมรับว่ามีอาการนอยด์บ้าง แต่แรกคิดว่าเป็นแค่หูอื้อธรรมดา จนไปตรวจจึงพบว่าเป็นปัญหาที่ประสาทหู

อาการนี้ส่งผลกระทบต่อการทำงานอยู่บ้าง โดยเฉพาะเวลาคุยโทรศัพท์กับเคสต่างๆ หรือแขกรับเชิญ ทำให้บางครั้งต้องเปิดสปีกเกอร์โฟน หรือเวลาอ่านข่าวกับคุณหมวย อรรถพร ต้องขอให้พี่หมวยไม่หันหน้ามาทางตนโดยตรง หรือต้องเลื่อนเก้าอี้หนีหากพี่หมวยลืม และอาจจะต้องมีการพิจารณาสลับที่นั่งกับคุณหมวยในอนาคต

นอกจากเรื่องสุขภาพหู คุณหนุ่มยังได้กล่าวเตือนภัยมิจฉาชีพที่นำภาพของเขาไปใช้ในทางที่ผิด โดยมีการตัดต่อภาพให้ดูเหมือนถูกจับกุมเข้าคุก หรือดูเหมือนถูกทำร้ายร่างกาย เพื่อหลอกลวงให้คนกดเข้าไปในลิงก์ ซึ่งลิงก์เหล่านั้นมักจะพาไปยังเว็บไซต์กู้เงินยืมเงิน หรือบางครั้งก็นำภาพของเขาไปแอบอ้างขายสินค้าต่างๆ โดยที่เขาไม่เคยทราบเรื่องหรือเกี่ยวข้องใดๆ

คุณหนุ่มเผยว่า ทราบเรื่องนี้เพราะเพื่อนส่งภาพมาถามว่า “ไอ้หนุ่ม มึงเกมหรอ” ทำให้ต้องชี้แจงว่าเป็นภาพตัดต่อ และเน้นย้ำให้ประชาชนระมัดระวัง โดยมีจำนวนมากที่ถูกนำไปใช้ในทางที่เสียหาย

ประเด็นสุดท้ายที่ถูกสอบถามคือการช่วยเหลือค่าเทอมให้กับลูกตำรวจ คุณหนุ่มชี้แจงว่า หลังจากข่าวออกไปในรายการโหนกระแส ก็มีผู้ติดต่อมาขอความช่วยเหลือจำนวนมาก รวมถึงสถานศึกษาและกองทุนต่างๆ แต่เคสของน้องคนนี้ เขาตัดสินใจช่วยเหลือด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัว และบอกให้กองทุนต่างๆ เก็บเงินไว้ช่วยเด็กคนอื่นที่ลำบากกว่า โดยยืนยันว่าการช่วยเหลือของตนสามารถทำได้ในมุมเล็กๆ เท่านั้น เป็นเพียงกรณีบางเคสที่ตนรู้สึกอยากช่วยเหลือจริงๆ ไม่สามารถช่วยเหลือทุกคนได้ เพราะเป็นเงินส่วนตัวจากการทำงาน ไม่ใช่เงินบริจาคจากมูลนิธิแต่อย่างใด