หนุ่ม กรรชัย โพสต์ระบายสุดอัดอั้นใจ! แจงปมเจอคนวงการสื่อแดกดัน ย้ำ ‘โหนกระแส’ ไม่ใช่ซุปเปอร์แมน ทำไมถึงไม่ทำทุกเรื่อง

หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดังและผู้ดำเนินรายการยอดนิยม “โหนกระแส” ล่าสุดได้โพสต์ข้อความยาวเหยียดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบายความในใจเกี่ยวกับความยากลำบากในการทำรายการ พร้อมชี้แจงประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งจากประชาชนทั่วไปและคนในวงการสื่อด้วยกันเอง

หนุ่ม กรรชัย เปิดเผยว่า ตนพยายามทำอย่างเต็มที่ที่สุดแล้วในการเลือกและนำเสนอประเด็นข่าว แต่ในความเป็นจริงไม่สามารถหยิบทุกเรื่องราวที่มีเข้ามาในแต่ละสัปดาห์มาทำได้ทั้งหมด เนื่องจากติดข้อจำกัดหลายประการ ทำให้ต้องเผชิญกับเสียงตำหนิและต่อว่าอยู่บ่อยครั้งว่าทำไมไม่ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้

เจ้าตัวยอมรับว่ารู้สึก “โคตรลำบากใจ” กับสถานการณ์ดังกล่าว และอยากทำให้ทุกคนสมหวัง แต่ยืนยันว่าตนไม่ใช่ซุปเปอร์แมน และทุกวันนี้ต้องพยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมายที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งด้านกฎหมาย การแพทย์ สิทธิเด็ก สังคมต่างๆ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้การทำงานของรายการ “โหนกระแส” นั้นยากและซับซ้อน ไม่ใช่ว่าจะหยิบเรื่องใดมาทำก็ทำได้ทันทีตามที่บางคนต้องการ

นอกจากนี้ หนุ่ม กรรชัย ยังได้พูดถึงคำพูดที่ทำให้รู้สึกแย่ เช่น การกล่าวหาว่ารายการทำแต่เรื่อง “ผัวเมีย” ไม่ยอมทำเรื่องผู้มีอิทธิพล ตำรวจ หรือคนใหญ่คนโต ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าความเห็นเช่นนี้เป็นอคติอย่างยิ่ง และขอให้ลองเปิดใจดูให้ชัดเจนก่อน เพราะตนเองได้ทำเรื่องราวเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพล ตำรวจ ทหาร ที่ไม่ดีไปแล้วหลายเรื่อง และต้องเสี่ยงอันตรายอยู่หลายครั้ง จนบางครั้งแทบหาความปลอดภัยไม่เจอ

อีกประเด็นที่ หนุ่ม กรรชัย กล่าวถึงคือความรู้สึกไม่เป็นธรรม ที่ต้องเจอคนในวงการสื่อด้วยกันเองบางส่วน “แดกดัน” โดยเปรียบเทียบว่ารายการอื่นวิเคราะห์ข่าวอย่างจริงจังแต่มีคนดูน้อยหลักหมื่น ในขณะที่ “โหนกระแส” ทำเรื่อง “ผัวเมีย” กลับมีคนดูหลักล้าน ซึ่งเจ้าตัวเปรียบเทียบกับการขายกางเกงยีนส์กับกางเกงสแล็ค และผู้บริโภคเลือกซื้อกางเกงยีนส์มากกว่า ถามว่าเป็นความผิดของตนเองหรือคนที่ซื้อหรือไม่ พร้อมแนะนำว่าแทนที่จะเสียเวลาแดกดัน ควรนำเวลาไปพัฒนางานของตัวเองให้แปลกใหม่เพื่อให้มีคนสนใจมากขึ้น

ท้ายที่สุด หนุ่ม กรรชัย ชี้แจงเพิ่มเติมถึงเหตุผลที่บางเรื่องไม่ได้นำเสนอว่า ไม่ใช่เพราะไม่อยากทำ แต่บางครั้งตนเองอาจจะไม่ถนัดหรือไม่มีความรู้ในด้านนั้นเพียงพอ ซึ่งการนำเสนอของช่องหรือรายการอื่นอาจจะดีกว่ามาก และเกรงว่าหากตนทำจะกลายเป็น “ชักใบให้เรือเสีย” นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือ “แขกรับเชิญไม่พร้อม” ซึ่งแม้จะอยากทำอย่างไรก็คงทำไม่ได้

ปิดท้ายด้วยสิ่งที่เจ้าตัวรู้สึกภาคภูมิใจ คือกรณีที่มีท่านผู้พิพากษาบางท่านบอกกับตนว่า ขอบคุณที่ทำให้คนไทยได้เรียนรู้ข้อกฎหมายมากขึ้น แม้จะนำเสนอในรูปแบบกุศโลบายก็ตาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกดีกับการทำงานที่ผ่านมา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *