สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งวงการ หลังนักแสดงตัวท็อปของไทยอย่าง นุ่น วรนุช ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการร่วมรายการเรียลลิตี้ชื่อดังของประเทศจีนอย่าง “Ride the Wind 2025” ซึ่งเธอได้โชว์ความสามารถทั้งร้องและเต้นในแบบที่แฟนๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน ล่าสุด นุ่น วรนุช ได้ออกมาเปิดใจถึงประสบการณ์ครั้งนี้ ณ งานกาล่าภาพยนตร์เรื่อง “สุสานคนเป็น” ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา

นุ่น วรนุช เผยว่า การตัดสินใจเข้าร่วมรายการ “Ride the Wind 2025” ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในชีวิตการทำงาน โดยเฉพาะในด้านภาษาและการฝึกซ้อมร้องเพลงและเต้นอย่างหนักหน่วง เธอยอมรับว่ามีช่วงเวลาที่กังวลใจอยู่บ้าง แต่สุดท้ายแล้ว ประสบการณ์ที่ได้รับนั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง

“เหนื่อยแล้วก็ยากค่ะ มันเป็นรายการ Ride the Wind 2025 เหมือนแข่งขันรวมนักแสดงหลากหลายสาขา มาทำโชว์ ทำกลุ่ม แล้วก็มีการโหวตให้คะแนนกัน” นุ่นกล่าว พร้อมเสริมว่าปัญหาหลักคือเรื่องภาษาจีน “เราพูดภาษาจีนไม่ได้ แต่ก็สนุก เราพยายามสื่อสาร มีน้องที่เด็กที่สุดเป็นหัวหน้าทีม จิตใจดีมาก” เธอย้ำถึงมิตรภาพที่ได้จากรายการว่าเป็นสิ่งสำคัญ นอกเหนือจากการแสดงและเรียนรู้ภาษา

นอกจากนี้ นุ่นยังได้เห็นเบื้องหลังการทำงานของวงการบันเทิงจีนที่เธอถึงกับทึ่งในความทุ่มเท “เค้าทำงานกันหนักมาก บางวันตารางงานวันถัดไปมาตอนตีสี่ หรือมีบางวันเลิกตีห้าก็มี” เธอเล่าถึงตารางการซ้อมที่ค่อนข้างกระชับ “รวมๆ แล้วน่าจะประมาณ 7 วัน”

เมื่อถูกถามถึงความท้าทายที่สุด เธอกล่าวว่าคือการสื่อสารและปรับตัวในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย แม้จะมีล่ามคอยช่วยเหลือตลอด แต่ก็ต้องพยายามทำความเข้าใจภาษาด้วยตัวเองบ้าง “พออยู่ไปฟังภาษาจีนได้บ้างก็จะฟังคำแล้วก็รู้ว่าเค้าพูดว่าอะไร ล่ามก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอด มันเหมือนรายการที่มีกล้องอยู่ตลอดเวลา ก็แปลกดี ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้ในอายุเท่านี้”

เธอยังได้กล่าวถึงการได้ร่วมงานกับนักแสดงต่างชาติที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะนักแสดงอาวุโสจากฮ่องกง “ดีใจที่ได้เห็นนักแสดงต่างชาติพอเวลาดัง เค้าก็ยังมีคนชื่นชม คอยติดตาม ได้เห็นการทำงานหลายๆ ด้านของเค้า รู้สึกประทับใจ” ส่วนความกดดันในรายการ เธอบอกว่า “พอไปอยู่ตรงนั้น เรารู้สึกว่าเราต้องทำอะไรต่อ ทุกอย่างจะค่อนข้างนิ่งเหมือนกัน เราเองก็ต้องใช้สติเหมือนกัน เพราะมันเป็นรายการเรียลลิตี้ ก็ต้องมีการเล่นเกม จะโชว์เพลงอะไรก็ต้องเล่นเกม”

เหตุผลที่ตัดสินใจไปร่วมรายการนี้ นุ่นเผยว่า “ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะไปหรอ จนทุกวันๆๆ อาจจะเป็นโปรเจ็กต์ที่พอดีกัน แล้วเหมือนเรื่องนี้จบพอดี แล้วมันเป็นช่วงจังหวะเวลาที่มันได้”

สิ่งที่ได้กลับมาจากการไปร่วมรายการนี้ คือการได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ “มันเป็นโลกใหม่อีกโลกหนึ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ทางด้านของโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับเค้า ก็รู้สึกว่ามันมีทั้งดีแล้วก็ไม่ดีควบคู่กันไป แต่สุดท้ายแล้วเราเสพสื่อต่างๆ ที่คนคอมเมนต์ถึงเรา เราก็ต้องปล่อย”

เมื่อถามถึงโอกาสงานโกอินเตอร์อื่นๆ ในอนาคต นุ่น วรนุช ตอบอย่างเปิดใจว่า “ยินดีค่ะ รู้สึกว่าจริงๆ วงการบันเทิงไทยก็มีอะไรเปลี่ยนมากขึ้น แล้วก็ยังมีโอกาสให้กับนักแสดง ไม่ใช่แค่นุ่นนะคะ แต่ยังมีน้องๆ หลายคน รุ่นพี่หลายคน ให้ได้ไปทำงาน คิดว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วตัวนุ่นเองก็รู้สึกว่ายังรักการทำงานอยู่ ยังมีความสุขที่ได้ทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ก็โอเค ถ้าไม่ยากจนเกินไปนะ”

สำหรับเสียงชื่นชมเรื่องความสวยของเธอในรายการ นุ่นถ่อมตัวพร้อมหัวเราะว่าน่าจะเป็นเพราะกล้องและโปรดักชั่นที่ทีมงานจีนทุ่มเท “ทุกที่มีกล้องหมด บางพื้นที่มีถึง 20 ตัว มันค่อนข้างเยอะ เค้าสามารถเก็บได้ทุกมุม ก็ขอบคุณนะคะที่ทำให้นุ่นได้มีโอกาสไปร่วมรายการดีๆ แบบนี้”

นุ่น วรนุช มองว่าการไปร่วมรายการนี้คือ “โบนัสชีวิต” ที่ได้รับ ไม่ได้คาดหวังถึงการต่อยอดอาชีพนักแสดงโดยตรง แต่ก็ถือเป็นโอกาสอันดี

ส่วนประเด็นเรื่องการทำเพลง ซึ่งเป็นอีกทักษะที่ต้องใช้ในรายการ เธอตอบติดตลกพร้อมอายว่า “อาย น่าจะยังไม่มี (ไม่ลองหรอ?) ไม่ได้คิดเลยค่ะ” และเมื่อถามถึงสามี (ต๊อด ปิติ) ว่าคอมเมนต์ถึงเรื่องนี้อย่างไรบ้าง เธอกล่าวสั้นๆ ว่า “ไม่ได้คอมเมนต์อะไรเลยค่ะ”