วิกฤตชีวิต! ‘หนุ่ม อรรถพร’ เผยแบกหนี้สิบล้านจากทำซีรีส์ เปิดร้านเบอร์เกอร์-ไลฟ์ขายสังฆทาน สู้ชีวิต เตรียมย้ายครอบครัวไปอังกฤษ
นักแสดงและผู้กำกับมากฝีมือ ‘หนุ่ม อรรถพร ธีมากร’ ควงภรรยา ‘ฝ้าย อริญรดา’ พร้อมลูกชาย น้องอันดา และ น้องอดัม มาเปิดใจแบบหมดเปลือกในรายการ ‘คุยแซ่บShow’ ถึงวิกฤตชีวิตครั้งใหญ่ที่กำลังเผชิญ ทั้งปัญหาหนี้สินจากการทำงานในวงการบันเทิง การปรับตัวมาทำธุรกิจ และแพลนที่จะย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ
หนุ่ม อรรถพร เล่าถึงสาเหตุที่หันมาเปิดร้านเบอร์เกอร์และสเต็ก ซึ่งหลายคนมองว่าเพราะงานในวงการบันเทิงลดน้อยลงไปหรือไม่ เขาอธิบายว่า นี่คือการปรับโมเดลธุรกิจ เนื่องจากงานผลิตละครและซีรีส์ในวงการบันเทิงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงและลดน้อยลง ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจผลิตที่เคยมีขนาดใหญ่ต้องปรับลดลง เหมือนกับการลดสาขาแฟรนไชส์เพื่อความอยู่รอด
นอกจากปัญหาเรื่องงานที่ลดลงแล้ว สิ่งที่กระทบหนักที่สุดคือหนี้สินจากการผลิตซีรีส์ ที่สูงถึงหลักสิบล้านบาท ซึ่งฝ้าย อริญรดา ภรรยาหนุ่ม อรรถพร ก็ยืนยันตัวเลขดังกล่าว หนี้ก้อนนี้เกิดขึ้นจากการที่เงินไม่ได้หมุนเวียนเข้าสู่ระบบบริษัทอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้หนุ่ม อรรถพร ต้องนำเงินส่วนตัวมาใช้หมุนเวียนและแก้ไขปัญหา ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็ยังไม่ได้รับการคืนกลับมา การแบกรับหนี้ก้อนนี้ด้วยเงินส่วนตัวในขณะที่ธุรกิจต้องปรับลดขนาดและจำนวนพนักงานลง สร้างความเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก แม้จะเข้าใจเรื่องค่าครองชีพและพยายามสนับสนุนทีมงานเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ถึงจุดที่แบกรับไม่ไหวจริง ๆ
เมื่อถูกถามว่าแพชชั่นในวงการบันเทิงหมดไปแล้วหรือไม่ หนุ่ม อรรถพร ยอมรับว่ามีความท้อและล้า เพราะไม่อยากให้ตัวเองและครอบครัวต้องกลับไปเผชิญกับความยากลำบากเช่นนี้อีก
ล่าสุด หลายคนเห็นหนุ่ม อรรถพร ไลฟ์สดขายสังฆทานและผ้าไตร ซึ่งบางส่วนอาจมีคำถามเชิงลบว่าทำไมถึงต้องมาทำถึงขนาดนี้ หนุ่ม อรรถพร ตอบประเด็นนี้อย่างชัดเจนว่า นี่คือการทำธุรกิจครอบครัวอีกรูปแบบหนึ่งที่ทำมาอยู่แล้ว และที่สำคัญ เขาฝากไปถึงสังคมว่า ในช่วงเวลาที่ผู้คนเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต ควรให้กำลังใจและเยียวยากันมากกว่าการตัดสินหรือบูลลี่ เพราะทุกคนสามารถมีช่วงที่กราฟชีวิตตกต่ำได้ การมีทัศนคติเชิงลบต่อผู้อื่นที่กำลังสู้ชีวิตไม่ใช่สิ่งสร้างสรรค์
นอกจากนี้ หนุ่ม อรรถพร ยังเปิดเผยถึงแพลนชีวิตที่ใหญ่ขึ้นไปอีก นั่นคือการวางแผนที่จะย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศจริง ๆ โดยคิดไว้ประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า เหตุผลหลักคือเพื่ออนาคตของลูกชายทั้งสองคน ที่กำลังเติบโตและได้รับการฝึกฝนวิชาความรู้ ซึ่งวันหนึ่งอาจอยากไปผจญภัยในโลกกว้าง การย้ายไปจะไปกันทั้งครอบครัวเพื่อดูแลกัน ซึ่งหมายถึงไปทั้งหมด เขาและภรรยากำลังเตรียมความพร้อมสำหรับเรื่องนี้ การตัดสินใจนี้มาจากการมองถึงอนาคตของลูก ๆ และการเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในโลก แม้จะมองว่าเมืองไทยดีที่สุดอยู่แล้ว แต่หากมีโอกาสเพื่ออนาคตลูก ก็พร้อมที่จะไป และยืนยันว่าสุดท้ายก็จะกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยอย่างแน่นอน
สำหรับประเทศที่เล็งไว้คือประเทศอังกฤษ โดยมองหาเมืองทางตอนใต้ที่สภาพอากาศอบอุ่นกว่ากรุงลอนดอนเล็กน้อย ซึ่งสิ่งที่ลูกกำลังเรียนอยู่ตอนนี้ก็ถูกวางแผนไว้เพื่อรองรับการใช้ชีวิตและการศึกษาที่นั่นด้วย
เรื่องราวของ หนุ่ม อรรถพร สะท้อนให้เห็นถึงความจริงของการทำงานในยุคปัจจุบันที่ต้องปรับตัวและสู้กับวิกฤตในหลายด้าน ทั้งในอุตสาหกรรมบันเทิงและธุรกิจส่วนตัว รวมถึงการวางแผนชีวิตในระยะยาวเพื่อคนที่รัก