ตม.นนทบุรี บุกทลายแหล่งคาราโอเกะ จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย รวบ 7 ราย

นนทบุรี – เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนนทบุรี นำโดย พล.ต.ต. เชษฐา อนันตศิลป์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง ภาค 3 ได้เข้าทำการตรวจค้นสถานประกอบการประเภทคาราโอเกะ ชื่อ “น้องใบเฟิร์น คาราโอเกะ” ตั้งอยู่ในซอยย่อยพื้นที่ตำบลบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการลักลอบจ้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานหรืออยู่อย่างผิดกฎหมาย

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายปราบปรามอาชญากรรมและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดย พล.ต.ต. เชษฐา อนันตศิลป์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนและส่งสายลับเข้าทำการแฝงตัวในร้านคาราโอเกะดังกล่าว พบว่ามีกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก และพบการจ้างแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานเป็นพนักงานบริการภายในร้าน ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายแรงงานของประเทศไทย

ขณะเข้าทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้พบแรงงานต่างด้าวจำนวน 7 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิง กำลังทำงานให้บริการลูกค้าอยู่ภายในร้าน เมื่อตรวจสอบเอกสาร พบว่าทั้งหมดไม่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย จึงถูกควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจสอบระบบการชำระเงินภายในร้าน พบความผิดปกติในการรับชำระเงินค่าบริการ โดยลูกค้าส่วนหนึ่งมีการสแกน QR Code เพื่อชำระเงิน ซึ่งเชื่อมโยงไปยังบัญชีธนาคารของบุคคลสัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงถึงการกระทำที่อาจเข้าข่ายการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและการใช้บัญชีของบุคคลต่างชาติในการทำธุรกรรมภายในประเทศ

ในส่วนของเจ้าของสถานประกอบการ ได้มีการสอบปากคำหญิงไทยรายหนึ่งที่อ้างว่าเป็นเจ้าของร้านชื่อ น.ส. ก. ซึ่งถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีในฐานความผิด “รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” และ “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย” ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง และพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว

พล.ต.ต. เชษฐา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุม จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งโดยทั่วไปผู้ที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตอาจต้องโทษปรับ และมีมาตรการทางตรวจคนเข้าเมือง เช่น การเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร การขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศ และการผลักดันออกนอกประเทศ

ทั้งนี้ การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไปเพื่อขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยเฉพาะประเด็นการใช้บัญชีธนาคารของบุคคลต่างชาติในการทำธุรกรรม ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภาษีหรือการฟอกเงิน ทางเจ้าหน้าที่จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสรรพากร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับคนต่างด้าว หรือการลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย ผ่านสายด่วน 1178 หรือทางเว็บไซต์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *