เจ้าของฟาร์มไก่เศร้าหนัก! พายุฤดูร้อนถล่มหนองคาย ซัดโรงเรือนพัง ไก่สาวเกือบ 900 ตัว จมน้ำตายเกลื่อน
หนองคาย – เจ้าของฟาร์มไก่ไข่ใน อ.เมือง จ.หนองคาย สุดเศร้า หลังเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากพายุฤดูร้อนพัดถล่มอย่างรุนแรง ทำให้โรงเรือนไก่ที่สร้างอยู่บนสระน้ำพังครืนลงมา ส่งผลให้ไก่สาวพันธุ์ดีที่กำลังจะเริ่มให้ผลผลิตไข่จำนวนเกือบ 900 ตัว จมน้ำตายทั้งหมด สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล กำลังเร่งประสานหน่วยงานภาครัฐขอรับการช่วยเหลือเยียวยา
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากผลกระทบของพายุฤดูร้อนที่พัดถล่มในพื้นที่จังหวัดหนองคาย เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 27 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ ต.ปะโค และ ต.เวียงคุก อ.เมือง จ.หนองคาย พบว่ามีบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือฟาร์มไก่ไข่ของ นางโสภิดา ทะแพงพันธ์ ตั้งอยู่ที่บ้านเวียงคุก ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
นางโสภิดา เจ้าของฟาร์ม ได้เล่าถึงเหตุการณ์ด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสลดว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 เม.ย. 2568) เวลาประมาณ 18.00 น. ได้เกิดพายุฤดูร้อนพร้อมลมกระโชกแรงพัดเข้ามาในพื้นที่อย่างกะทันหันและเป็นวงกว้าง ฟาร์มไก่ไข่ของตนมีโรงเรือนเลี้ยงไก่อยู่ 2 หลัง ซึ่งสร้างอยู่บนสระน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาไปด้วย ปรากฏว่าโรงเรือนหลังใหญ่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของไก่สาวรุ่นอายุประมาณ 1 ปี 6 เดือน ที่กำลังจะเริ่มให้ไข่ ได้ถูกแรงลมพายุพัดอย่างรุนแรงจนโครงสร้างพังทลายลงมาทั้งหลัง ตกลงไปในสระน้ำที่อยู่ด้านล่าง
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือไก่ที่อยู่ในโรงเรือนได้ทัน ไก่จำนวนมากถึง 864 ตัว ซึ่งเป็นไก่รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการให้ผลผลิตไข่ได้ดี ได้จมน้ำตายทั้งหมด
เจ้าของฟาร์มไก่ กล่าวต่อว่า หลังจากพายุสงบลง ต้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงให้เข้ามาช่วยกันงัดและยกโครงสร้างหลังคาโรงเรือนที่จมอยู่ในน้ำ เพื่อพยายามกู้ซากไก่ที่เสียชีวิตขึ้นมา แต่ด้วยความเสียหายที่รุนแรงและจำนวนไก่ที่มาก ทำให้ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก
สำหรับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น หากคิดเป็นราคาไก่สาวพร้อมไข่ ตัวละประมาณ 200 บาท ไก่ 864 ตัว มีมูลค่ารวมประมาณ 172,800 บาท นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโรงเรือนใหม่ขนาดเดียวกัน คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท ซึ่งรวมแล้วเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจจำนวนไม่น้อย
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดหนองคาย และเจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เดินทางเข้ามาสำรวจพื้นที่เพื่อประเมินความเสียหายแล้ว โดยนางโสภิดา ได้แจ้งข้อมูลความเสียหายทั้งหมดให้กับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐต่อไป เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการประกอบอาชีพและรายได้ของครอบครัว.