สุดเวทนา! น้องภูมิ 11 ขวบ ป่วยอ้วน 150 กก. กินดินเป็นอาหาร วอนสังคมช่วยเหลือ
นครพนม – สุดเวทนา! ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม หลังรับแจ้งจากชาวบ้าน พบเด็กชายวัย 11 ปี ป่วยเป็นเด็กพิเศษ มีน้ำหนักตัวสูงถึง 150 กิโลกรัม และมีพฤติกรรมน่าเป็นห่วง ชอบเดินเก็บกินดินเป็นอาหาร วอนสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ครอบครัวมีฐานะยากจน อาศัยอยู่กับตายายที่ชราภาพ ใช้ชีวิตลำบากทั้งการดูแลและสุขภาพของเด็ก
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านโนนสังข์ ตำบลหนองบ่อ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม หลังได้รับแจ้งเรื่องราวสุดเวทนาจากชาวบ้าน พบกับนายวินัยกร อายุ 66 ปี และนางธนารักษ์ อายุ 63 ปี ตาและยายของน้องภูมิ วัย 11 ขวบ ที่มีรูปร่างอ้วนท้วน น้ำหนักตัวมากถึง 150 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีคุณครูชฎาพร พระจอมจันทร์ อายุ 52 ปี ครูพี่เลี้ยงศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครพนม หน่วยบริการนาแก, นายบ้าน โคตรนาแก รองนายก อบต.หนองบ่อ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ซึ่งต่างก็เดินทางมาตรวจสอบและให้กำลังใจ พร้อมหาทางช่วยเหลือ
นางธนารักษ์ ผู้เป็นยาย เล่าว่า เลี้ยงน้องภูมิ หลานชายคนนี้มาตั้งแต่แบเบาะ น้องเป็นเด็กออทิสติกและเป็นใบ้มาแต่เกิด แต่สามารถฟังรู้เรื่อง พ่อแม่น้องไปทำงานที่กรุงเทพฯ นานๆ จึงจะกลับมาบ้านสักครั้ง เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวและเลี้ยงลูกอีกคน ปกติน้องภูมิไม่ได้อ้วนและน้ำหนักเยอะขนาดนี้ เคยไปโรงเรียนใกล้บ้านได้ 1-2 ปี ก็ต้องหยุดไป เพราะน้องไม่ยอมนั่งรถจักรยานยนต์ในช่วงที่คุณครูพี่เลี้ยงที่เคยรับส่งไม่สบาย ช่วงที่อยู่บ้านน้องภูมิจะกินจุทุกอย่าง โดยเฉพาะเส้นขนมจีนวันละ 3 กิโลกรัม ข้าวเหนียวก็กินทั้งกระติ๊บ แต่ระยะหลังๆ มานี้ น้องภูมิเริ่มแงะดินเหนียวบริเวณโพรงดินข้างผนังบ้านมากินเป็นอาหาร และหากไม่ได้กินก็จะร้องงอแง อารมณ์เสีย
ด้านนายวินัยกร ผู้เป็นตา เสริมว่า หลานชายคนนี้เริ่มกินดินเป็นอาหารมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว กินทุกวัน ไม่เป็นเวลา ตื่นเช้ามาทำธุระส่วนตัวเสร็จก็จะเดินมานั่งเก้าอี้เอน แงะดินข้างผนังบ้าน ซึ่งเป็นดินที่นำมาจากทุ่งนามาถมบริเวณบ้านให้สูง แล้วกินดินนั้นทุกวัน ส่วนข้าวเหนียวช่วงนี้หลานไม่ค่อยกิน จะกินแต่ขนมจีนคลุกน้ำปลาแทน ขนมจีนจะกินเยอะมาก ราวๆ 3-4 เข่งพลาสติก ราคาเข่งละ 10-20 บาท เทใส่ได้ 4-5 จาน คลุกกับส้มตำ พล่าเนื้อ หรือย่างหมูกินหมดในหนึ่งมื้อ ส่วนข้าวแทบจะไม่แตะเลย
ขณะที่คุณครูชฎาพร ให้ข้อมูลว่า น้องภูมิเคยไปเรียนที่ศูนย์การศึกษาพิเศษได้ 1-2 ปี โดยมีคุณครูอีกท่านมารับและไปส่ง แต่คุณครูท่านนั้นไม่สบายช่วงหลัง ก่อนหน้านี้น้องภูมิจะกินเป็นเวลาและยังไม่อ้วนขนาดนี้ ระยะหลังไม่มีคนไปส่งน้องภูมิที่โรงเรียน ทำให้น้องมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากถึง 150 กิโลกรัม กินจุทุกอย่าง ตาและยายก็อายุมากแล้ว ไม่สามารถไปส่งหลานได้ อีกทั้งน้องภูมิก็ไม่ยอมนั่งรถจักรยานยนต์ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าตายายอาจจะตามใจหลานหรือไม่ หลังจากไม่ได้ไปโรงเรียนมาประมาณ 3 เดือน
คุณครูชฎาพร ยังระบุว่า พฤติกรรมการกินดินของน้อง อาจเป็นพฤติกรรมซ้ำๆ เดิมๆ ของเด็กออทิสติก ซึ่งทางตายายต้องห้าม ครูที่มาเยี่ยมบ้านก็จะบอกตาและยายเสมอว่าดินกินไม่ได้ ล่าสุดจึงได้ประสานรถกู้ชีพของ อบต.หนองบ่อ นำน้องภูมิส่งโรงพยาบาลนาแก เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายว่ามีโรคอื่นแทรกซ้อนหรือไม่
ในการนำน้องภูมิขึ้นรถกู้ชีพ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านกว่า 6-7 คน ต้องช่วยกันหามน้องขึ้นรถใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง เนื่องจากน้ำหนักตัวมาก เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์ไม่สามารถชั่งน้ำหนักได้ เนื่องจากไม่มีตาชั่งขนาดใหญ่พอ แพทย์ได้ฉีดยาแก้ปวดให้ 1 เข็ม และพ่นยาช่วยบรรเทาอาการหายใจลำบาก ก่อนนำเข้าเครื่องเอกซเรย์ ผลตรวจไม่พบโรคอื่นใดนอกจากโรคอ้วน แต่น้องภูมิไม่ยอมนอนโรงพยาบาล และเกรงว่าจะงอแงส่งเสียงดังรบกวนผู้ป่วยคนอื่น ทางโรงพยาบาลจึงให้รถกู้ชีพนำน้องส่งกลับบ้าน
สถานการณ์ของน้องภูมิ สะท้อนถึงความยากลำบากในการดูแลเด็กพิเศษที่มีภาวะอ้วนรุนแรงในครอบครัวที่ยากจน และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสังคม เพื่อให้น้องภูมิได้รับการดูแลสุขภาพและพัฒนาการที่เหมาะสมต่อไป