สุราษฎร์ธานี – รายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.มัณฑนา หรือน้องมิ้น อายุ 23 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ถูกกระแสไฟฟ้ารั่วจากเสาไฟฟ้าส่องสว่างริมถนนชอร์ตขณะขี่รถจักรยานยนต์ลุยน้ำท่วม มาตามถนนเลี่ยงเมือง บริเวณใกล้แยกบางใหญ่ หมู่ที่ 6 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จนหมดสตินอนจมน้ำ ก่อนจะมีพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่กู้ภัยบางใหญ่เข้าช่วยเหลือ นำตัวส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีและรักษาตัวในห้อง ICU ตามที่เคยเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่อาคารนิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี นายมงคล ผ่องผิว อายุ 53 ปี ผู้เป็นพ่อของน้องมิ้น พร้อมด้วยญาติ และแฟนหนุ่ม ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพน้องมิ้น หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะนำร่างไปดำเนินการตามพิธีทางศาสนาต่อไป

นายมงคล ผู้เป็นพ่อ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดว่า ตนและครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. ของวันนี้ (8 พ.ค.) น้องมิ้นได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในขณะที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจและเสียใจอย่างยิ่ง เพราะน้องมิ้นเพิ่งเรียนจบและกลับมาทำงานได้ไม่ถึงปีก็ต้องมาเสียชีวิตลงในลักษณะนี้

เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินการทางกฎหมาย นายมงคลกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่รับผิดชอบแต่อย่างใด เนื่องจากต้องการจัดการเรื่องงานศพของลูกสาวให้เรียบร้อยเสียก่อน คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) จะมีการปรึกษาหารือกับทางญาติและผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป อาจจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ก็ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและลงบันทึกประจำวันไว้แล้วตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ

ในฐานะที่เป็นช่างด้วยตัวเอง นายมงคลมีความเข้าใจว่าสาเหตุของเหตุการณ์นี้เกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่ว ซึ่งตนทราบว่ากระแสไฟฟ้ามันรั่วในรัศมีประมาณ 2 เมตร เป็นจังหวะที่น้ำขึ้นสูงมากทำให้น้องมิ้นขี่รถจักรยานยนต์ไม่ได้และต้องเข็นรถไปตรงจุดเกิดเหตุพอดี จึงถูกกระแสไฟฟ้าชอร์ตจนหมดสติล้มลงในน้ำ และกว่าจะมีคนมาช่วยเหลือก็เป็นไปด้วยความยากลำบากและล่าช้า เนื่องจากผู้ที่เห็นเหตุการณ์ไม่สามารถเข้าไปช่วยโดยตรงได้ทันที ต้องใช้อุปกรณ์มาช่วยเหลือนำน้องออกมา

ส่วนในเรื่องของการดูแลและให้กำลังใจจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นายมงคลกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจ ซึ่งเบื้องต้นก็รู้สึกดีในระดับหนึ่ง แต่ก็อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องปรึกษากับทางญาติก่อนว่าจะดำเนินการกันอย่างไร เพราะตอนนี้ต้องเก็บข้อมูลและหลักฐานให้ได้มากที่สุดก่อน ซึ่งเท่าที่มีอยู่ตอนนี้ก็ถือว่ามีมากพอแล้ว

สิ่งที่นายมงคลเน้นย้ำคือ จากข้อมูลที่ตนทราบ จุดเกิดเหตุบริเวณดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เป็นครั้งแรก แต่เคยมีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

ด้านสภาพจิตใจของครอบครัว นายมงคลยอมรับว่ามันเจ็บปวดมาก คนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนย่อมเข้าใจถึงความรู้สึกที่จะต้องมาสูญเสียลูกแบบนี้ น้องมิ้นเป็นเด็กที่น่ารักมาก เป็นดวงใจของครอบครัว และยังเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานทุกคนที่ได้ร่วมงานด้วย อยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรัก ตอนนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือสภาพจิตใจของแม่น้องมิ้น ซึ่งรักลูกสาวมาก และเป็นลมไปหลายครั้งแล้ว ครอบครัวต้องพยายามทำใจเพื่อที่จะก้าวผ่านความสูญเสียครั้งนี้และสู้ต่อไปให้ได้